วันที่ 3 ก.พ.68 นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ (Kick off) การป้องกันและแก้ไขปัญหา หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม
ทั้งนี้กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) กรณีไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) มีข้อสั่งการให้ทุกจังหวัด จัดกิจกรรม Kick Off เคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” เพื่อเป็นการประกาศเจตนารมย์ร่วมกัน ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ทุกพื้นที่ โดยใช้กลไกท้องถิ่นและท้องที่ลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจและสร้างจิตสึกนึกให้กับประชาชนร่วมกันไม่เผาเพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชนส่วนรวม
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมปล่อยขบวนรถรณรงค์กิจกรรมโครงการสระบุรีร่วมใจ ป้องกัน และแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง พร้อมรณรงค์เคาะตามบ้านชี้แจงทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในการขอความร่วมมือลดการเผาเพื่อช่วยกันรักษาสภาพอากาศให้อยู่ในสภาวะปกติ
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ได้ให้ความสำคัญกัญกับการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ซึ่งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีความห่วงใยกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และสั่งการในช่วงระยะ 3 เดือน หรือ 90 วัน ต่อจากนี้ ต้องห้ามเผาโดยเด็ดขาด กรณีสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ให้พิจารณาประกาศใช้มาตรการ Work From Home โดยพิจารณาจากการพยากรณ์สภาพอากาศล่วงหน้า ตลอดจนขอความร่วมมือหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งสำนักงานเกษตรจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านสื่อสารประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชน โดยเฉพาะการห้ามเผาในพื้นที่ ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้ลงพื้นที่ไปยังสุสานเพื่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ผู้เฝ้าเพื่อทำความเข้าใจในการที่จะดูแลพื้นที่สุสาน พร้อมกล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดสระบุรีมีสุสานเป็นจำนวนหลายแห่งซึ่งในแต่ละปีก็จะมีการเผาเพื่อปรับพื้นที่ จึงต้องมีมาตราการดูแลเป็นพิเศษ เนื่องจากในช่วงเทศกาลอันใกล้นี้จะมีเทศกาลเชงเม้ง และจะมีการเผาพื้นที่เพื่อปรับภูมิทัศน์บริเวณสุสาน เตรียมพื้นที่เพื่อไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งผู้ว่าฯ ได้ฝากย้ำในจุดนี้ว่าให้งดการเผาเด็ดขาด และฝากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือเจ้าหน้าที่สุสานทำความเข้าใจกับญาติ ที่จะมาทำพิธีให้รับทราบมาตรการ
ด้านนายบุญชัย ตั้งไพบูลย์สุข ผู้ดูแลสุสานเซี่ยเข่ง อำเภอแก่งคอย กล่าวว่า หลังจากได้รับนโยบายจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีแล้ว ทางสุสานจะได้จัดระเบียบและดูแลพื้นที่ พร้อมทำความเข้าใจกับญาติที่จะเข้ามาทำพิธี และจะเรียกผู้ที่รับจ้างดูแล มาทำความเข้าใจ
SARABURI SANDBOX
Saraburi Low Carbon City
คุณภาพชีวิตดีคนสระบุรี
ไม่ทอดทิ้งกัน
สมพงษ์ ปานรุ่ง รายงาน สระบุรี
Discussion about this post