น่าน – กก.สส.ภ.จ.น่าน ร่วมกับ จนท.ตร.สภ.เมืองน่าน รวบนนท์ผาตูบ ลักพระเครื่อง และวัตถุโบราณวัดชื่อดัง ตำบลดู่ใต้

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.30 น.ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ดเรศ กัลยา ผบก.ภ.จ.น่าน, พ.ต.อ.ยุทธพงษ์ เมฆคะ ผกก.สส.ภ.จ.น่าน, พ.ต.อ.ชาตรี หทยะวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองน่าน , พ.ต.ท.จักรพงษ์ วงค์ไชย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองน่าน, พ.ต.ท.ตันติกร ดวงตา สว.กก.สส.ภ.จ.น่าน, พ.ต.ต.สุวัฒน์ ศรีบุญเรือง สว.สส.สภ.เมืองน่าน จนท.ตร.สภ.เมืองน่าน.จ.น่าน จำนวนหนึ่ ได้ร่วมกันจับกุมนายนนท์(สงวนนามสกุล)อายุ 34 ปี ม.1 ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน จ.น่าน พร้อมของกลาง ยาบ้า ชนิดเม็ด สีแดง จำนวน 1 เม็ด

หลังจากที่ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. (สส 3) การประชุมเพื่อเร่งรัดสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับโดยให้ทุกหน่วยดำเนินการวางแผนเร่งรัด สืบสวน จับกุมบุคคลตามหมายจับ ในห้วงระหว่างวันที่ 25 พ.ย.-4 ธ.ค. 67 และก่อนเกิดเหตุ ซึ่ง ต่อมาจนท.ตร.กก.สส.ภ.จ.น่าน ร่วมกับ จนท.ตร.สภ.เมืองน่าน ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลบุคคลที่มีหมายจับภายในพื้นที่จังหวัดน่าน พบว่า นายนนท์ (สงวนนามสกุล)เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดน่าน ที่ /2567 ลงวันที่วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหสถาน” และสืบทราบว่านายนนท์ (สงวนนามสกุล) อาศัยอยู่ ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน จ.น่าน และโฮมสเตย์แห่งหนึ่ง ใน หมู่ 1 ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน จ.น่าน จึงได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดน่านที่ 2567 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เพื่อค้นหาตัวนายอานนท์ฯ และสิ่งของซึ่งจะเป็นพยานหลังฐานที่ใช้ในการกระทำความผิดหรือได้มาโดยผิดกฎหมาย บริเวณดังกล่าวเมื่อไปถึงหน้าบ้านหลังที่เกิดเหตุ พบ นางวงค์ (นามสมมุติ) เป็นเจ้าบ้าน และเป็นมารดาของนายนนท์ฯ จากนั้น จนท.ตร.ชุดจับกุม ได้แสดงหมายค้นดังกล่าวต่อหน้ามารดาของนายนนท์ฯ

ขณะที่เข้าทำการตรวจค้น จนท.ตร.ชุดจับกุม ได้เห็นนายนนท์ (นามสมมุติ)ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดน่าน ได้วิ่งหลบหนีไปทางหลังบ้านหลังดังกล่าว จนท.ตร.ชุดจับกุม ได้วิ่งติดตามสามารถความคุมตัวไว้ได้ จึงได้แสดงหมายจับ ตามหมายจับของศาลจังหวัดน่าน ที่ 2567 วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหสถาน” นายนนท์ (นามสมมุติ)ได้ตรวจสอบหมายจับแล้วรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลในหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับในคดีนี้มาก่อน จากนั้น จนท.ตร.ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับและสิทธิให้ นายนนท์ (นามสมมุติ)ทราบ และนายนนท์ (นามสมมุติ)ได้ยอมรับกับ จนท.ตร.ชุดจับกุม ว่าตนได้เสพยาบ้ามาก่อนหน้าที่จะถูกจับกุม ในครั้งนี้ พร้อมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้ควบคุมตัวนายอานนท์ฯ พร้อมของกลาง นำส่ง พ.ต.ท.สำราญ วงศ์ไชยยาพงส.สภ.เมืองน่าน จ.น่าน โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหสถาน”, “มียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยฝ่าฝืนกฎหมาย,เสพยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย”และกระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหสถาน”นายนนท์ (นามสมมุติ)ก่อนที่จะถูกออกหมายจับนั้นนายนนท์ (นามสมมุติ) ได้เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ สินมีค่าหลายอย่างประกอบด้วย
พระหลวงพ่อวัดดอนตัน ,พระกรุบ่สวก พระร่วงนั่ง , ฟันหลวงปู่ เลี่ยมทองเกือบๆห้าบาท สร้อยห้อยลูกประคำเงิน ที่วัดชื่อดังแห่งหนึ่งในตำบลดู่ใต้ แล้วได้หลบหนีไป หลังจากที่นายนนท์ (นามสมมุติ) รับทราบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าวนั้น โดยที่ นายนนท์ (นามสมมุติ) ได้นำทรัพย์สิน มีค่า กว่าหลายอย่าง ให้ญาตินำไปส่งคืนให้เจ้าอาวาส วัดดัง กล่าวแล้ว จำนวนหนึ่ง แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือ กรอบพระเลี่ยมทอง ยังไม่สามารถติดตามได้ เพิ่งจะได้สืบสวนติดตาม อีกครั้งหนึ่งเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น จ.น่าน