ที่จังหวัดลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตรี วิชาญ ศรีภัทรางกูร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 พร้อมด้วยพันเอก ประณต ศิริพันธ์ รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 32 ได้นำสื่อมวลชนจังหวัดลำปางเข้าไปชมโรงเรือนเพาะเลี้ยงไข่ผำ ภายในค่ายสุรศักดิ์มนตรี ซึ่งได้ทำการสร้างโรงเรือนเสร็จเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 67 และเริ่มตักจำหน่ายแล้ว เปิดรับออร์เดอร์กล่องละ 25 บาท ปริมาณ 250 กรัม (4 กล่องราคา 100 บาท) สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ โครงการทหารพันธุ์ดีค่ายสุรศักดิ์มนตรี ติดต่อ 095-451-1343 นางสาววิไลวรรณ(นุ่น)
ทหารพันธุ์ดี มณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรีนำร่องเพาะเลี้ยงไข่ผำ เพาะเลี้ยงในโรงเรือนเพาะเลี้ยงไข่ผำด้วยระบบปิดแนวตั้ง ได้ดำเนินการสร้างแล้วเสร็จ โดยได้ทดลองเลี้ยงไข่ผำ ในระบบปิดแนวตั้ง มีกระบวนการเพาะเลี้ยงสะอาด และได้มาตรฐาน และใช้ปุ๋ยน้ำไฮโดโปรนิค(ปุ๋ย AB) ในการเพาะเลี้ยง ใช้ตาข่ายไนล่อนล้อมกันแมลง พลาสติกด้านบนกันฝน และยุงไม่สามารถเข้าไปวางไข่ได้
ไข่ผำ เป็นพืชพื้นบ้านแสนธรรมดาที่ถูกจับตามองจากต่างชาติ ด้วยประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการมากมายจนได้รับการยอมรับจากทั่วทุกมุมโลก และถูกขนานนามว่าเป็น ซูเปอร์ฟูด (Superfood) เนื่องจากเป็นแหล่งโปรตีนทดแทนชั้นเยี่ยม เพราะกิน 1 ได้ประโยชน์ถึง 3 คือ ประโยชน์ที่ 1 มีโปรตีนสูง ประโยชน์ที่ 2 มีโอเมกา 3 และ 6 สูง และประโยชน์ที่ 3 มีคลอโรฟิลล์สูง
ไข่ผำ ฉายา คาเวียเขียว ลักษณะพืชตัวเล็กสีเขียวไม่มีรากและใบขนาดเพียง 1 มิลลิเมตร มักจะเกาะตัวกันเป็นแพรออยู่บนผิวน้ำคล้ายกับสาหร่าย หลายพื้นที่ต่างมีชื่อเรียกแตกต่างกันอาทิ ผำ ไข่ผำ ไข่ผำน้ำ ไข่แหน สำหรับการแพร่พันธุ์สามารถแพร่พันธุ์ได้เร็วแค่สองวันก็สามารถขยายได้สองเท่า เก็บได้ทุกสองสัปดาห์ จำหน่ายราคากิโลกรัมละ 80 ถึง 120 บาท คนและสัตว์สามารถกินได้ รสชาติจืด มัน คนและสัตว์กินได้รสจืดมัน คล้ายกะหล่ำปี มีโปรตีนและเบต้าแคโรทีนสูง ใช้รักษาอาการท้องผูกและรักษาภาวะซีด
ผำสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพ ผำเป็นพืชน้ำมีสีเขียว เม็ดกลม ขนาดเล็กคล้ายๆไข่ปลากระจายคุ้มเหนือผิวน้ำเป็นแพร มักจะขึ้นอยู่ตามแหล่งน้ำที่เป็นน้ำนิ่ง จัดเป็นพืชดอกไม่มีรากและใบ ผำเป็นแหล่งของโปรตีนสูงมากถึง 40% อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น เหล็กแคลเซี่ยม สังกะสี ช่วยเสริมกระดูก การไหลเวียนโลหิตและเพิ่มภูมิคุ้มกัน มีวิตามินบี 12 ช่วยในการทำงานของระบบประสาท อีกทั้งยังย่อยง่าย ไฟเบอร์สูงดีต่อระบบการย่อยอาหารเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและความยังช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศได้ เทียบเท่ากับป่าที่สมบูรณ์ในพื้นที่ที่เท่ากันอีกด้วย (ข้อมูลจากกองหอสมุดและศูนย์สาระสนเทศน์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกรมวิทยาศาสตร์)
ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 กล่าวว่า "จุดเริ่มต้นของโครงการเลี้ยงผำ เดิมเรื่องโครงการทหารพันธุ์ดีเราปลูกพืชผักเป็นหลักและก็เราต้องการพึ่งพาชุมชนโดยให้มีแหล่งอาหารโปรตีนมากขึ้น ที่เพิ่งผ่านมาโครงการเลี้ยงสัตว์ เราได้เลี้ยงสัตว์ด้วยอาหารเม็ดซึ่งมันไม่คุ้มทุน แล้วก็พยายามหาพิธีการว่าเราพยามทำยังไงหาโปรตีนมากขึ้น ผำก็เป็นพืชโปรตีนชนิดหนึ่งที่เราให้ความสนใจ เพราะว่าในปัจจุบันทางงานวิจารณ์หลายๆที่เขาวิจัยว่าเป็นอาหารที่มูลค่าสูง มีโปรตีนสูง มีวิตามินสูง โดยเฉพาะบี 12 ซึ่งพืชชนิดอื่นไม่มี แล้วก็เป็นซุปเปอร์ฟู้ด และเป็นที่นิยมมากขึ้น เราก็เลยมาส่งเสริมเลี้ยงผำ เพื่อที่จะให้กำลังพลมีอาชีพ มีรายได้เพิ่มขึ้น ให้มีอาหารโปรตีนในค่ายมากขึ้น การจำหน่าย ปัจจุบันพึ่งเริ่มต้นเลี้ยง เราก็มีเพจของโครงการทหารพันธุ์ดีก็มีการสั่งทางออนไลน์ด้วยและวันนี้มีตลาดนัดหน้าค่ายด้วย วันนี้เราก็มีการเปิดตลาดนัดหน้าค่ายเป็นวันแรก เราบรรจุใส่กล่อง 250 กรัม ราคา 25 บาท โดยเฉลี่ย 4 กล่อง 1 กิโลกรัม ราคา 100 บาท เมนูส่วนใหญ่ที่จะทำเป็นอาหารง่ายสุดคือ ไข่เจียวผำ แต่บางคนบอกว่าแกงคั่วผำจะอร่อยมาก บางท่านก็ไปทำแกงคั่วผำ ปัจจุบันในค่ายเราแม่บ้านก็เอาไปแปรรูปเป็นคุกกี้ผำและขนมปังหน้าผำ และมีแนวโน้มว่าหลายๆคนข้างนอกก็เริ่มสั่งไปทำขนมแต่ถ้าเราเลี้ยงสะอาดก็สามารถจะทำเป็นสมูทตี้ผำและอื่นๆได้ พันธุ์ที่นำมาเลี้ยงเป็นพันธุ์มาจากท้องตลาดทั่วไป ได้แก่สายพันธุ์โกลโบซ่า โรงเรือนที่สร้างในตอนนี้ ถ้าไม่คิดค่าแรงประมาณ 28,000 บาท ปล่อยครั้งเดียว เก็บได้ตลอดจนกว่าจะหมด ถ้าจะเลี้ยงเราต้องทำโรงเรือนให้สะอาด สามารถป้องกันแมลงและยุงได้ สำหรับคนที่สนใจรอผมทำให้ตรงนี้ได้ผลเป็นอย่างดี เราจะเปิดโครงการอบรมให้กับผู้ที่สนใจเข้ารับฟัง เป็นอาชีพเสริมที่ดีมาก ในอนาคตน่าจะมีผำอบแห้ง ราคาแพงมาก สนใจสามารถติดต่อไดที่โครงการทหารพันธุ์ดีค่ายสุรศักดิ์มนตรีได้ครับ โครงการของเราเลี้ยงในบ่อขนาด 2x3 เมตร จำนวน 2 บ่อ และขนาด 2x4 เมตร จำนวน 1 บ่อ
อัมรินทร์ วะนะวิเชียร/ลำปาง 0987521270
Discussion about this post