แจ้งเตือนภัย ชายหญิงคู่หู อาศัยช่องทางโซเชียลสมัครเข้าทำงานเป็นคนงานก่อสร้างอำเภอบางเลน หลังสบโอกาส ทำทียืมรถจักรยานยนต์ป้าคนงาน อ้างจะไปกดเงินจากนั้นขี่หายลอยนวล เจ้าตัวสุดเซ็งต้องผ่อนกุญแจอีกหลายหมื่น สอบถามตำรวจยังเงียบเฉย ส่วนนายจ้างค้นประวัติพบทั้งคู่ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ย้ำเป็นภัยสังคมต่อชีวิตแรงงาน
วันนี้ 24 ตุลาคม 2556 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนาย กานต์ ผลอุดม อายุ 51 ปี ต.บางปลา อ.บางเลน จาก.นครปฐม ผู้รับเหมา ช่างทาสี หลังจากมีชายสองคนเข้ามาทำทีสมัครงานเป็นคนงานก่อสร้างแผนกช่างทาสี มาทำงานเพียงวันเดียวก็หยุดงานมาทราบอีกทีได้เชิดรถจักรยานยนต์ของป้าคนงานไปแล้วเชื่อว่าเป็นมืออาชีพที่ก่อเหตุมาแล้วหลายคดี
นายกานต์ อายุ 51 ปี บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมาซึ่งตนเองได้ประกาศรับสมัครช่างทาสีในไซด์งานก่อสร้างที่อำเภอบางเลนโดยนายมีนายหน่อย (ไม่ทราบนามสกุล) และนางสาวสุกัญญา ปั่นกลาง อายุ 45 ปี ได้เข้ามาสมัครงานและได้ทำงานในวันแรกตามปกติ แต่จากนั้นวันรุ่งขึ้นทั้งคู่ก็ไม่ได้มาทำงานจนมาถึงเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนเองจึงได้แจ้งประกาศไล่ทั้งคู่ออก วันเดียวกันช่วงเย็นตนเองได้ขับรถเข้ามามาที่ตลาดบางเลน และเห็นทั้งคู่ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่เหมือนเหมือนกับของคนงานจึงได้ลองขับวนตามแต่ไปไม่ทันเนื่องจากได้มีการเลี้ยวเข้าแยกซอยเล็กและจากกันโดยเมื่อกลับมาถึงไซด์งานได้ไปสอบถามพบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของคนงานในทีมจริง ซึ่งคาดว่าทั้งคู่ได้ทำทีลักขโมยออกจากสถานที่ทำงานแน่ จึงได้พาลูกจ้างไปแจ้งความลงบันทึกให้ติดตามตัวทั้งคู่มาดำเนินคดีเพราะเชื่อ น่าจะเป็นคนร้ายที่ไม่ได้มาทำงานเพื่อหารายได้จริง แต่ใช้วิธีในการออกหางานไปตามไซด์ก่อสร้างต่างๆเมื่อสบโอกาสก็จะใช้ลักษณะดังกล่าวในการก่อเหตุ
นายกานต์ บอกต่ออีกว่า หลังจากเกิดเหตุผมก็ได้ทำการค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตโดยพบว่าทั้งคู่ได้เคยก่อเหตุมาแล้วไม่น้อยกว่าสามครั้งในจังหวัดใกล้เคียงซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับทรัพย์ทั้งสิ้นโดยตอนนี้น่าจะมีคดีติดตัวเพิ่มและอยากจะขอเตือนภัยไปยังไซด์งานก่อสร้างหรือองค์กรห้างร้านต่างๆหากจะรับคนขอให้ตรวจสอบประวัติให้ดีโดยเฉพาะการรับสมัครคนผ่านระบบออนไลน์จะไม่มีองค์กรใดมาช่วยตรวจสอบให้และจะเจอปัญหาดังกล่าว
นาง ธมัลลวรรณ บัวผัน อายุ 57 ปี ชาวพิจิตร คนงาน ผู้เสียหาย บอกว่าช่วงเย็นวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 5 โมงครึ่งหลังจากที่ตนเองเลิกงานแล้วและได้ไปนั่งพักอยู่ที่ซุ้มศาลาในวัดลานคา ซึ่งอยู่ติดกับไซด์งานก่อสร้างที่ตนเองทำงานอยู่โดยบอกว่าจะขอยืมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 สีแดง-ดำ ทะเบียน 1 กฏ 9828 พิจิตร ไปเพื่อกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มใกล้ๆ นี้
แต่ปรากฏว่าทั้งคู่ได้หายไปนานผิดสังเกตจึงคิดว่าน่าจะโดนหลอกให้ยืมรถแล้วถูกคนร้ายทั้งคู่เชิดไปแล้ว กระทั่งนายจ้างได้มาสอบถามและได้แจ้งข้อมูลซึ่งตรงกันว่าเมื่อเช้าได้มีการไล่ออกและช่วงเย็นได้อาศัยจังหวะมายืมรถจักรยานยนต์ของตนเอง ซึ่งเย็นวันนั้นนายจ้างได้พาไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรบางเลนให้เร่งติดตามจับกุมทั้งคู่มาดำเนินคดี
นางธมัลวรรณ บอกอีกว่าตอนนี้ยังไม่ทราบว่าคดีเป็นอย่างไรเพราะหลังเกิดเหตุได้พยายามโทรติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่มีใครรับสายหรือใครที่จะให้ข้อมูลได้ว่าตนเองจะได้รับรถคืนหรือไม่ ซึ่งตอนนี้รถจักรยานยนต์คันที่ถูกคนร้ายนำไปด้วยตนเองได้นำไปเข้าไฟแนนซ์และยังเป็นหนี้สินอยู่อีกประมาณ 30,000 บาท ซึ่งจากนี้ก็คงต้องเป็นการผ่อนกุญแจไป และก็ไม่มีรถที่จะขับขี่มาทำงานด้วยทำให้เกิดความเดือดร้อนหนักจึงอยากจะวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามคนร้ายสองคนนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วและกลัวว่าทั้งคู่จะไปก่อเหตุลักษณะดังกล่าวกับคนงานหรือร้านค้าต่างๆเพราะรถจักรยานยนต์ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะ ใช้ในการทำงานหากไม่มีแล้วก็จะจะยิ่ง ทำให้เกิดปัญหาครอบครัวเรื่องรายได้แน่นอน
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ติดตามข้อมูลและเก็บภาพวงจรปิดของชายหญิงทั้งคู่ซึ่งได้มีการเข้ามาทำงานจริงในวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ได้มีการแจ้งเตือนภัยเกี่ยวกับบุคคลทั้งสองที่มีลักษณะจะเข้าไปสมัครงานจึงอยากให้นายจ้างเจ้าของร้านและภาคเอกชนได้ช่วยกันตรวจตราหากพบตัวขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวเพราะน่าจะมีคดีติดตัวมาแล้วหลายแห่งด้วย
ภาพ/ข่าว กิตติพงษ์ จันทร์ละมูล ผู้สื่อข่าว จ.นครปฐม
Discussion about this post