ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม สานนโยบายผู้บัญชา การตำรวจแห่งชาติ ใช้หลักธรรมเป็นหลักในการปฏิบัติหน้าที่ นิมนต์หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม บรรยายธรรม ภายใต้แนวคิด “ธรรมนำใจ ในการทำ งาน” ยกใช้ศีลตัดกิเลส เพื่อทำหน้าที่เพื่อประชาชน
วันนี้ 20 ก.ค. 66 ที่ห้องประชุม ชั้น 3 ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรสุวรรณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เป็นประธานในการประชุมบริหาร ภ.จว.นครปฐม ซึ่งมีนายตำรวจระดับรองผู้บังคับ การ ผู้กำกับการ รองผู้กำกับการ ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดนคร ปฐม เข้าร่วมในการประชุมดังกล่าว ได้มีการนำนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการให้มีการใช้หลักธรรมมา โดยได้นิมนต์ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม มาบรรยายธรรมในหัวข้อ “ธรรมนำใจ ในการทำงาน”
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ให้แนว ทางในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เป็นอาชีพที่ได้ขึ้นว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ต้องมีหน้าที่ในการใช้กฎหมายกับประชาชน ซึ่งตอนนี้พระก็ทำหน้าที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วยนั่นคือการที่พระมีหน้าที่นำธรรมะเข้าไปขัดเกลาจิตใจของผู้ต้องขังในเรือนจำด้วยเช่นกัน
หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า อาชีพตำรวจหนีไม่พ้นกับการที่จะต้องจับผู้ร้ายมาที่กระทำความผิด ซึ่งแน่นอนย่อมจะมีการดิ้นรนเพื่อให้พ้นความผิด และปฏิเสธไม่ได้ว่าย่อมมีการช่วยเหลือกันหรือทำให้คนผิดเป็นคนถูกและทำให้คนถูกกลายเป็นผู้ผิดสิ่งเหล่านี้คือ กิเลส ซึ่งกิเลส ประ กอบด้วยคามโลภ ความโกรธและความลุ่มหลง มีหลายกรณีที่ตำรวจตกเป็นผู้ต้องหาในหลายคดีเพราะปัจจุบันในสังคมมีสื่อสังคมและมีเครื่องมีสำหรับบันทึกภาพและเก็บข้อมูลได้เยอะมาก ซึ่งสิ่งที่จะช่วยให้เราหลีกหนีจากสิ่งเหล่านี้ได้คือการนำหลักศีล5 นำมาปฏิบัติใช้เพื่อเป็นการดับกิเลสและตั้งหลักใช้เป็นการละอายต่อการทำบาป
“ตัวตัดกิเลสได้ดีที่สุดนั่นคือศีลธรรม ซึ่งการมีศีลก็จะมีสมาธิและปัญญาอยู่ด้วย นั่นคือการมีสติ สิ่งที่จะทำนำมาตั้งมั่นไว้คือ ต้องเพิ่มจากความโลภ โกรธ หลง คือการไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง นี่ก็จะทำ ให้เราอยู่ในศีล และจะสามารถปฏิบัติตัวเองไม่ให้หลงกระทำความผิดและสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้เป็นอย่างดี” หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย.
Discussion about this post