วันที่ 2 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณตลาดหมู่บ้านพฤกษา3 จ.นนทบุรี พบว่าบรรยากาศการซื้อขายชุดนัก เรียนมีการปรับราคาของบางอย่างที่แพงขึ้น สืบเนื่องมาจากปัญหาทางเศรษฐกิจ ทำให้รายได้ของผู้ปกครองขาดหายไปหรือยังพอมีกำลังซื้อก็ต้องยอมลดปริมาณการซื้อลง จะเลือกซื้อเฉพาะในสิ่งที่จำเป็นให้กับบุตรหลานเท่านั้น เสื้อผ้า หรืออุปกรณ์ที่ยังคงอยู่ในสภาพดีก็ต้องให้ลูกหลานใช้ไปก่อนซื้อเติมเฉพาะสิ่งที่ชำรุดเสียหายเท่านั้น
น.ส.อุ๋ย แก้วประเพณี อายุ49 ปี อาชีพค้าขาย กล่าวว่า ของแพงขึ้นกว่าปีที่แล้วเยอะอยู่ อย่างว่าอะไรมันก็แพง ตัวตนเองก็มีความเดือดร้อนเพราะเศรษฐกิจไม่ดีขายของได้น้อย แต่ก็ต้องมาซื้อชุดนักเรียนให้ลูกขนาดซื้อประ หยัดแล้วยัง เกือบ 2,000 บาท ก็เดือดร้อนอยู่ ก็อันไหนที่พอใช้ได้อยู่ก็ใช้ไปก่อน ส่วนที่ซื้อใหม่ก็ซื้อแบบประหยัดคือซื้อเป็นบางส่วนใช้ของเก่าด้วย ไม่งั้นก็แย่ ผู้ปก ครองอันไหนที่ประหยัดได้ใช้ของเก่าได้ก็ใช้ไปก่อน วันนี้ตนมาซื้อของก็ หมดไป 1,400บาท เสื้อ 1 ตัว กางเกง 1 ตัว หมวก 1 ใบ แต่รองเท้า 2 คู่เพราะจะหน้าฝนแล้ว
น.ส.วันเพ็ญ หอมทวนลม อายุ52 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า ช่วงนี้ก็เพิ่งจะเริ่มก็พอขายได้ การที่มีลูกค้ามาซื้อจริงๆพูดถึงตามหลักก็ซื้อแค่ความจำเป็นบางทีเขามีตัวเก่าที่ใช้ได้เขาก็ใช้ตัวเก่าก่อน เพราะว่าของบางตัวปรับราคาขึ้นมา อย่างรองเท้านักเรียนบางยี่ห้อก็ปรับราคาขึ้น ทางร้านก็พยายามหาสิ้นค้าที่มีราคาย่อมเยามาขายให้ลูกค้า อย่างเช่นถุงเท้า ก็ไปรับที่ บริษัทโดยตรงไม่ต้องผ่านยี่ปั้ว เพราะว่าจะได้ลดให้ลูกค้าได้เยอะหน่อย จากปกติเขาขายกันคู่ล่ะ 25 บาท ตนก็ขายแค่ คู่ละ20บาท ถ้าลูกค้าซื้อยกโหล ก็สามารถลดราคาได้อีก ก็ช่วยเหลือกันไปเพราะลูกค้าก็มีแต่ลูกค้าเดิม ลูก ค้าเก่าทั้งนั้น ที่ซื้อกันมาตั้งแต่พี่คนโตจนน้องคนเล็ก.
Discussion about this post