จากกรณีผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือ นายยุทธศาสตร์ ยศทแสน อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่3 ซอยสุเหร่าเก่า ถ.เทอดเผ่าไทย ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ที่มีร่างกายอ้วน มีน้ำหนักถึง 300 กิโลกรัม จนทำให้ไม่สามารถเดินได้ ต้องนอนคว่ำตลอดเวลา กินอาหาร และ ขับถ่าย นอกจากนี้ยังพบมีแผลกดทับจนเริ่มเน่าเปื่อย เป็นเวลากว่า 3 เดือนมาแล้ว โดยมีนางวรรณา ยศทแสน อายุ 59 ปี มารดาที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานดูแลตามลำพัง ด้าน น.ส.แจ่มจันทร์ หน่ายคอน อายุ 38 ปี พี่สาว ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่น้องชายได้ติดเชื้อโควิด19 เมื่อต้นปี แต่พอหายป่วย เริ่มก็กลับมีอาการขาสั่น และ ต่อมาก็เดินไม่ได้ ทั้งที่ก่อนหน้ายังขี่จยย.และเดินได้ ถึงแม้จะมีน้ำหนักตัวประมาณ 150 กิโลกรัม ทางตนเอง จึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือหน่วยงานในพื้นที่ แต่ก็ไม่มีการช่วยเหลือ บอกว่าให้พาไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่ก็จนปัญญา เพราะไม่สามารถพาน้องชายไปได้ จึงทำได้ตามอัตภาพ น้องชายปวดก็ทำได้แค่ให้กินยาแก้ปวดกินบรรเทาไปเท่านั้น สงสารน้องมากต้องการให้หายและเดินได้ จะได้กลับไปเรียนต่อ ระดับ ปวส.ที่หยุดเรียนไปให้จบ และ สงสารแม่ที่อาจจะทรุดไปอีกคน เพราะต้องดูแลคนเดียว ตามข่าวที่เสนอไป
เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 13 ก.ค.นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.กระทรวงสาธารณะสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สุกิจ บรรจงกิจ
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระยอง และ ทีมแพทย์ ได้เดินทางมาที่ บ้านเลขที่ 3 ซอยสุเหร่าเก่า ถ.เทอดเผ่าไทย ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อให้ความช่วยเหลือ นายยุทธศาสตร์ ยศทแสน อายุ 23 ปี ที่มีน้ำหนักมากถึง 300 กิโลกรัม และ เดินไม่ได้
เมื่อไปถึง ทางทีมแพทย์จึงเข้าไปตรวจอาการเบื้องต้น พบว่ามีแผลกดทับที่ช่วงคอด้านหลัง และ ไม่สามารถเดินได้ ส่วนชีพจร และ ความดัน ปกติ จึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพื่อเตรียมนำตัวส่ง รพ.ราชวิถี กรุงเทพ เพื่อรับการรักษา
ต่อมา นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.กระทรวงสาธารณสุข ได้ เข้าไปดูอาการพร้อมสอบถาม นายยุทธศาสตร์ โดยให้กำลังใจว่ากำลังจะได้รับการรักษาแล้ว ขอให้มีกำลังใจต่อสู้จะได้หายป่วยกลับมาเรียนต่อได้โดยเร็ว ก่อนจะจับมือนายยุทธศาสตร์ ให้กำลังใจในการต่อสู้เพื่อกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ใช้ผ้าใบรองตัวของ นายยุทธศาสตร์ เพื่อเคลื่อนย้ายขึ้นรถพยาบาล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 12 คนซึ่งนายสาธิต ก็ได้ช่วยยกตัวนายยุทธศาสตร์ด้วย แต่การยกก็เป็นไปด้วยความยากลำบากกับน้ำหนักที่มากถึง 300 กิโลกรัม ขณะออกจากประตูที่มีขนาดเล็ก ต้องใช้วิธีดันร่างออกไป ก่อนจะช่วยกันยกขึ้นรถไปด้วยความปลอดภัย ท่ามกลางความโล่งอกของญาติพี่น้อง และ ชาวบ้านในชุมชนที่มายืนให้กำลังใจ หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปที่ รพ.ราชวิถี โดยมี นางวรรณา ยศทแสน อายุ 59 ปี เดินทางไปด้วย
นายสาธิต ได้กล่าวว่า หลังจากที่ทราบเรื่อง ทางตนเองก็ได้ประสานไป ที่ รพ.เฉลิมพระเกียรติฯมาบตาพุด เข้ามาตรวจสอบอาการเบื้องต้น พบว่าระบบหายใจ ความดัน อยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนการเดินไม่ได้คงจะเกี่ยวกับน้ำหนักตัว จึงให้ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี ที่มีความพร้อม และ มีแพทย์ผู้เชี่ยวเฉพาะด้าน ซึ่งได้มีการประสานทาง ผอ.โรงพยาบาลไว้แล้ว โดยมีการเตรียมความพร้อมเรื่องการรักษาไว้แล้ว ส่วนเรื่องที่อาจจะเกิดผลกระทบจากการที่เคยติดเชื้อโควิด19 มาก่อน ตึงทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น คงจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง จึงจะสรุปได้
ด้านน.ส.แจ่มจันทร์ หน่ายคอน อายุ 38 ปี พี่สาว ได้เปิดเผยทั้งน้ำตา ว่า รู้สึกดีใจมากที่น้องจะได้ไปรักษาแล้ว ไม่คิดว่าจะรวดเร็ว ขอบคุณทุกสื่อที่ช่วยนำเสนอข่าวน้องชาย จนนำไปสู่การได้รับการรักษา ที่ผ่านมาเคยขอความช่วยเหลือไปแล้วจากหน่วยงานในพื้นที่ แต่เนื่องก็เงียบ แม้แต่การฉีดวัคซีนโควิด19 น้องชายก็ยังไม่ได้ฉีดเลย วันนี้เหมือนกับฝันไป และ ที่สำคัญ คือ ผู้ที่มีน้ำใจ โอนเงินมาช่วยเหลือจำนวนกว่า 3 แสนบาท ซึ่งทางครอบครัวขอให้สัญญาว่าจะนำเงินทุกบาทไปใช้ในเรื่องของการรักษาน้อง และ หากน้องหายก็จะใช้เป็นทุนในการเรียนของน้อง จึงขอขอบคุณทุกคนอย่างสูง
Discussion about this post