เมื่อวันที่ 21เม.ย.65 ที่ทำการศาลจังหวัดหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรี ขันธ์ นายยุทธ ศิริบุญรักษา ผู้พิพาก ษาหัวหน้าศาลจังหวัดหัวหิน เป็นประ ธานในพิธีทำบุญ ถวายภัตตาหาร จตุปัจจัยไทยทานแด่พระภิกษุสงฆ์ และเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในโอกาสครบรอบ 140 ปี ศาลยุติธรรม โดยมี นายปัญญา สอนวิสัย อัยการจังหวัดหัวหิน นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายอติชาติ ชัยศรี รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พร้อมด้วยหัว หน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานสังกัดกระบวนการยุติธรรม สภ.หัวหิน ภาคเอกชน ร่วมในพิธีและจัดนิทรรศ การอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ระบบศาลของไทยเริ่มมีมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้ใช้อำนาจตุลาการในการพิจารณาพิพากษาคดีให้แก่ประชาชน และมีวิวัฒนาการเรื่อยมาจนสิ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา ถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นได้มีการตั้งศาลขึ้นประจำหน่วยงานต่างๆเพื่อพิจาร ณาพิพากษาคดีต่างพระเนตรพระกรรณ และนำเอากฎหมายของกรุงศรีอยุธยามาปรับปรุงและบัญญัติขึ้นใหม่ เรียกว่า กฎหมายตราสามดวง
ต่อมาเมื่อบ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น มีการติดต่อกับชาวต่างชาติ ทำให้ระบบการศาลไทยมีการเปลี่ยน แปลง มิฉะนั้นอาจเป็นเหตุที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งกับชาติตะวันตกได้จึงมีการปฏิรูประบบการศาลไทยขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอม เกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงมีบทบาทในการวางรากฐานระบบการศาลยุติธรรม โดยได้รวมศาลที่กระจัด กระจายอยู่ตามกระทรวง กรมต่างๆให้มารวมไว้ในที่แห่งเดียวกัน เพื่อให้การพิจารณาพิพากษาคดีดำเนินไปด้วยความรวดเร็ว ถูกต้อง เหมาะสม ไม่ทำให้ราษฎรเดือดร้อน
โดยในโอกาสที่กรุงเทพมหานครมีอายุครบ 100 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 21 เมษายน 2425 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราช ดำเนินทางขบวนพยุหยาตรา มาวางศิลาก่อพระฤกษ์อาคารศาลสถิตยุติ ธรรม และทรงโปรดฯให้จารึกพระราชปรารภในการจัดตั้งศาลยุติธรรมไว้ในแผ่นเงิน จึงถือเอาวันที่ 21 เมษา ยนของทุกปีเป็นวันศาลยุติธรรม และในโอกาสครบรอบวันศาลยุติธรรม 140 ปี ส่วนราชการ กระบวนการยุติ ธรรม จึงพร้อมเพรียงกันจัดนิทรรศ การและทำบุญถวายภัตตาหาร จตุ ปัจจัยไทยทานแด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีต่อศาลยุติธรรมไทย.
Discussion about this post