วันที่ 13 มีนาคม 2565 ที่ปางช้างแม่แตง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา รองประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมวุฒิสภา พร้อมคณะ ได้ร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวช้างเชิงสร้างสรรค์ในแนวทาง Elephant healthcare based tourism ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพช้าง โดยใช้เวลาตลอดวัน
ทั้งนี้ ช่วงเช้ามีพิธีสงฆ์ประพรมน้ำมนต์ให้กับช้างกว่า 80 เชือก ส่วนช่วงบ่ายได้จัดเลี้ยงบุฟเฟต์ผลไม้ในรูปแบบขันโตกยักษ์ ซึ่งประกอบด้วยต้นข้าวโพด กล้วย อ้อย ฟักทอง สับปะรด และแตงโม โดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการคนช่วยช้างช้างช่วยคน โดยคุณวีรเวช ศุภวัฒน์ แห่งบริษัทกุ๊บไตจำกัด จ.แม่ฮ่องสอน , สมาคมสหพันธ์ช้างไทย และ สายบุญ อาจารย์บอย บารมีเทพบันดาลแม่พลอย ร้อยล้าน พร้อมคณะศิษย์แม่หมวย พันล้าน Brand Drich VALUE พร้อมคณะลูกทีม ร่วมกันเป็นเจ้าภาพดังกล่าว
ต่อมาได้ร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพช้าง พร้อมฟังบรรยายจาก สพ.ญ.พนิดา เมืองหงส์ สัตวแพทย์ประจำคลินิกช้างปางช้างแม่แตง และทำสบู่สมุนไพรจากเครือสะบ้าเพื่อใช้สำหรับอาบน้ำช้าง ซึ่งสมุนไพรดังกล่าว มีฟองครีมสบู่ธรรมชาติในตัวเมื่อทุบให้ละเอียดแล้วนำไปขัดถูทำความสะอาดให้ช้าง ก่อนร่วมกิจกรรมอาบน้ำให้ช้างในแม่น้ำแม่แตง ซึ่งกิจกรรมเต็มไปด้วยความสนุกสนานและสร้างสายใยความผูกพันให้กับคนและช้าง ด้วยการแสดงความรักจากการดูแลเอาใจใส่ในสุขภาพช้าง เป็นการท่องเที่ยวช้างในรูปแบบส่งเสริมและดูแลสุขภาพช้างรูปแบบใหม่
นางวาสนา ทองสุข กรรมการบริหารปางช้างแม่แตงเผยว่า วันช้างไทย ได้ให้ความสำคัญมาโดยตลอด จัดต่อเนื่องกันมาทุกปีอย่างยิ่งใหญ่เสมอ เพราะเราให้ความสำคัญกับช้างและควาญช้างของเราที่ร่วมกันทำงานมาตลอดทั้งปี จึงต้องให้รางวัลใหญ่ทุกปี แต่ปีนี้ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ทำให้ปางช้างขาดรายได้จากการท่องเที่ยว ตอนแรกคิดจัดงานเล็กๆเป็นการภายใน แต่ได้รับสนับสนุนการจากกัลยาณมิตรที่มาร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ต้องขอบคุณเป็นอย่างสูง
นางวาสนา กล่าวอีกว่า จากผลกระทบของโควิด19 มาเป็นเวลาสองปีกว่านั้น การท่องเที่ยวช้างไทยไม่ได้รับการเหลียวแลจากภาครัฐเลย มีแต่ภาคเอกชนที่ให้ความสำคัญ และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งบรรเทาความเดือดร้อนไปได้บ้าง แต่ช้างเป็นสัตว์บกที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก กินอาหารปริมาณที่เยอะมากในแต่ละวัน รายจ่ายหลักปางช้าง คือค่าอาหารช้าง ซึ่งช้างไม่สามารถที่จะหยุดกินได้ ต้องมีอาหารป้อนให้เขากินตลอด ซึ่งต้องบอกตามตรง ว่าถ้าการท่องเที่ยวยังไม่กลับมาเป็นสภาพปกติ หรือใกล้เคียงเหมือนเมื่อก่อน เราต้องขอถอดใจ โดยขายช้างหรือกิจการ ไปให้กับผู้ที่เขาสามารถบริหารจัดการได้และมีความรักช้างอย่างแท้จริงต่อไป
Discussion about this post