
Grand Moment สระบุรี เปิดโลกล้านปีใต้พิภพ “ถ้ำทะลุถ้ำ” แก่งคอย-มวกเหล็ก เส้นทางท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์ที่พานักเดินทางเข้าสู่ดินแดนลึกลับใต้พิภพ เปิดโอกาสให้ผู้รักการผจญภัยได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ผ่านถ้ำหินปูนอายุหลายล้านปี ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางธรณีวิทยาและตำนานแห่งพงไพร จากกรุงเทพฯ ระยะทาง 142.7 กิโลเมตร
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพระนครศรีอยุธยา โดยนายณัฐปคัลภ์ อัครวิชญ์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยาร่วมกับสมาคมการท่องเที่ยวสระบุรี และเครือข่ายป่าชุมชน ได้ร่วมกันเปิดเส้นทางการเดินทางสุดพิเศษนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและเรียนรู้คุณค่าทางธรณีวิทยา ผ่านถ้ำทะลุถ้ำที่เชื่อมโยงระหว่างอำเภอแก่งคอยและอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ตลอดระยะทาง 1,800 เมตรของเส้นทางถ้ำทะลุถ้ำ นักท่องเที่ยวจะได้เดินเท้าผ่านพื้นที่ป่าชุมชนของเขาหินปูนดงพญาเย็น เข้าไปสำรวจถ้ำลุมพินีสวนหิน ถ้ำโบราณที่มีอายุหลายล้านปี ที่ถูกธรรมชาติรังสรรค์ให้มีความงดงามเหนือจินตนาการ ด้วยหินงอกหินย้อยและแร่ธาตุต่างๆ ที่สะท้อนแสงระยิบระยับ สร้างความตื่นตาตื่นใจตั้งแต่ก้าวแรกที่ย่างเข้าสู่ภายในถ้ำ
เมื่อเดินลึกเข้าไป นักท่องเที่ยวจะได้พบกับโถงถ้ำทั้ง 12 แห่ง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป เริ่มต้นจากโถงห้องค้างคาว ซึ่งเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีปล่องเปิดออกไปสู่ภายนอก ทำให้แสงธรรมชาติส่องลอดเข้ามาได้เล็กน้อย บรรยากาศภายในถ้ำเต็มไปด้วยเสียงปีกกระพือของค้างคาวที่บินวนอยู่ทั่วบริเวณ ถัดมาเป็นโถงม้าลาย ที่มีลวดลายขาวดำของหินเชิร์ตและหินปูนเรียงตัวเป็นลายคล้ายม้าลายอย่างน่าประหลาดใจ ต่อมาคือโถงเสาวิหาร ที่โดดเด่นด้วยเสาหินขนาดมหึมาที่เกิดจากการเชื่อมต่อของหินงอกและหินย้อยจนกลายเป็นเสาหินธรรมชาติขนาดใหญ่ ให้อารมณ์เสมือนอยู่ในมหาวิหารใต้ดินที่ถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือของธรรมชาติเอง เดินต่อไปไม่นานจะพบกับโถงแชงกาเรีย ห้องโถงที่เต็มไปด้วยหินย้อยรูปร่างคล้ายโคมไฟแชนเดอเลียร์ หรือโคมไฟแชงกาเรียที่ระยิบระยับจากการสะท้อนของแร่แคลไซต์ สร้างภาพที่งดงามและน่าตื่นตาตื่นใจ
หลังจากเดินผ่านโถงแชงกาเรีย นักท่องเที่ยวจะได้พบกับโถงแท่นอาสนะ หินงอกที่ถูกน้ำกัดเซาะจนมีลักษณะคล้ายแท่นบรรทมขนาดใหญ่ ก่อนจะเข้าสู่โถงจระเข้ห้อยหัว ซึ่งเป็นจุดที่มีหินย้อยขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายจระเข้ห้อยหัวลงมาจากเพดานถ้ำ จากนั้นเป็นโถง UFO ที่มีก้อนหินขนาดมหึมาลักษณะคล้ายจานบินตั้งตระหง่านอยู่ภายในถ้ำ ถัดไปจะเป็นโถงพระแท่นนางคอย ที่มีหินงอกลักษณะคล้ายหญิงสาวนั่งชันเข่ารอคอยบางสิ่งบางอย่าง ดูเงียบสงบและลึกลับในคราวเดียวกัน จากนั้นนักท่องเที่ยวจะพบกับโถง OK ซึ่งมีหินงอกสีเหลืองทองรูปร่างคล้ายมือที่ทำท่า “OK” อย่างน่าประหลาดใจ
เมื่อเดินลึกเข้าไปในถ้ำ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับโถงเสือดาว ซึ่งเป็นห้องโถงที่มีผนังถ้ำประดับไปด้วยจุดสีเหลืองสดใสบนพื้นหินสีขาว ทำให้ดูคล้ายลวดลายของเสือดาวอย่างน่าอัศจรรย์ และยังมีบางส่วนของพื้นที่ที่เรียงตัวกันเป็นลักษณะคล้ายขั้นบันได จนถูกเรียกว่า “บันไดเสือดาว” ต่อมาเป็นโถงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นแอ่งน้ำใสสะอาดเย็นตา ที่เกิดจากกระแสน้ำกัดเซาะจนเกิดเป็นหลุมลึกที่มีลักษณะคล้ายหม้อ และสุดท้ายคือโถงบันไดสวรรค์ ซึ่งเป็นห้องโถงสุดท้ายที่มีหินงอกหินย้อยเรียงตัวกันเป็นแนวคล้ายบันไดทอดยาวขึ้นไปสู่ด้านบน ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังก้าวขึ้นสู่สรวงสวรรค์
นายวีระพงศ์ ทะวังเกวียน ผู้นำทาง เปิดเผยถึงความงดงามของ “ถ้ำโถง” ที่ซ่อนตัวอยู่ในธรรมชาติ ภายในถ้ำเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยที่เปล่งประกายราวกับเพชร และยังมีหินที่มีรูปร่างแปลกตาหลายแบบ อาทิ “โถงม้าลาย” ซึ่งมีผนังเป็นลวดลายคล้ายม้าลาย, “โถงบันไดเสือดาว” และ “โถงเสือดาว” ซึ่งมีลวดลายสีเหลืองแต้มดำบนผนังชั้นบนของถ้ำ
จุดไฮไลต์ของถ้ำ ได้แก่ “โถงโอเค” ซึ่งเป็นหินย้อยที่มีลักษณะคล้ายคนยกมือทำสัญลักษณ์ OK และ “แท่นหินนางคอย” ที่มีรูปร่างคล้ายหญิงสาวนั่งรอคอยใครบางคน
เส้นทางสำรวจถ้ำเต็มไปด้วยความท้าทาย นักผจญภัยจะได้พบกับเส้นทางที่ต้องลุยน้ำ ปีนป่าย และมุดผ่านช่องแคบ ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนกำลังผจญภัยในโลกของ “Explorer Land” ข้อสำคัญคือ ผู้ที่จะเดินทางเข้าถ้ำต้องมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง 100% และ ห้ามมีโรคหอบหืด เนื่องจากภายในถ้ำไม่มีแสงสว่างใดๆ นอกจากไฟฉายของนักเดินทางเอง
ระยะเวลาในการสำรวจถ้ำใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยผู้ที่ต้องการเข้าไปจะต้องเตรียมเสื้อผ้าและรองเท้าให้เหมาะสม ทางทีมงานจะมี หมวกนิรภัย และ ไฟฉาย ให้เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
นอกจากการเดินสำรวจภายในถ้ำ นักท่องเที่ยวยังสามารถเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงอื่นๆ ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก จปร. และพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ที่สลักอยู่บนหน้าผา ถ้ำพระโพธิสัตว์ที่มีรูปสลักพระโพธิสัตว์ยุคทวารวดีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ต้นลิ้นควายสูงใหญ่อายุกว่า 300 ปี ถ้ำธรรมทัศน์ และผาหินรูปหัวใจ อีกทั้งเส้นทางท่องเที่ยวแห่งนี้ยังสามารถเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของอำเภอแก่งคอยและอำเภอมวกเหล็กได้อีกด้วย
โครงการถ้ำทะลุถ้ำบริหารจัดการโดยความร่วมมือของป่าชุมชนบ้านถ้ำน้ำพุ อำเภอแก่งคอย และป่าชุมชนบ้านลำภูทอง อำเภอมวกเหล็ก ภายใต้การสนับสนุนของเครือข่ายป่าชุมชนจังหวัดสระบุรี ร่วมกับภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนสามารถจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศได้อย่างยั่งยืน เส้นทางนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและระดับน้ำภายในถ้ำ
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมเดินทางผจญภัยและสัมผัสกับความมหัศจรรย์ใต้พิภพ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจ “ถ้ำทะลุถ้ำ แก่งคอย-มวกเหล็ก สระบุรี” หรือโทรศัพท์ 083-4699855 (คุณส้ม) แล้วออกเดินทางไปค้นพบช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่และความงดงามของธรรมชาติที่รอให้คุณไปสัมผัสด้วยตัวเอง! แผนที่การเดินทาง https://maps.app.goo.gl/poLvv5WUqKrfdbqz6?g_st=il
ภาพ / ปานวาด สุขไพบูลย์ – ข่าว / หิรัญยวัต อธิวัฒน์เดชากร สระบุรี 0815122131
Discussion about this post