
วันที่ 13 มีนาคม 2568 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า และคณะ เดินทางลงพื้นที่ คลองภักดีรำไพอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลจันทนิมิต อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจราชการและมอบนโยบายด้านการบริหารจัดการน้ำและภาคการเกษตรของจังหวัด โดยมี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมคณะส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงชาวบ้านนับ 100 คนให้การต้อนรับ
หนึ่งในประเด็นสำคัญของการลงพื้นที่ครั้งนี้คือ การติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของกรมชลประทาน เนื่องจากปัจจุบันจังหวัดจันทบุรีเผชิญปัญหา แหล่งเก็บกักน้ำไม่เพียงพอ แม้จะเป็นจังหวัดที่มีภาคเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักและต้องการใช้น้ำในปริมาณมากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เน้นย้ำว่า โครงการอ่างเก็บน้ำมีแนวโน้มเป็นไปได้สูง แต่ขณะนี้ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่เพียง 20% ของที่ต้องการทั้งหมด ทำให้ยังไม่สามารถสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ได้อย่างเต็มที่ กระทรวงเกษตรฯ จึงเตรียมหารือเพิ่มเติมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าจะได้รับความร่วมมือ เนื่องจากรัฐมนตรีทรัพยากรฯ เคยดำรงตำแหน่งในกระทรวงเกษตรมาก่อนและเข้าใจถึงความจำเป็นในการบริหารจัดการน้ำ ทั้งนี้ ในวันที่ 18 มีนาคม 2568 จะมีการประชุมอีกครั้ง โดยกรมชลประทานจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าชี้แจงถึง เหตุผลที่พื้นที่ที่ได้รับอนุญาตในปัจจุบันยังไม่เพียงพอสำหรับการสร้างอ่างเก็บน้ำ และจะรอการพิจารณาต่อไป.
.
โดยทางด้าน นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ กล่าวว่าจังหวัดจันทบุรี ภาคการเกษตรมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม (GPP) สูงถึง 87,570 ล้านบาท คิดเป็น 56.74% ของเศรษฐกิจจังหวัด ขณะที่ภาคนอกเกษตรมีมูลค่า 66,777 ล้านบาท หรือ 43.26% ขณะที่มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคเกษตรของจังหวัดจันทบุรี ยังครองอันดับ 1 ของประเทศในด้านมูลค่าผลิตภัณฑ์ภาคเกษตร สำหรับสินค้าการเกษตรสำคัญของจังหวัด และเป็นสินค้าเกษตรส่งออกที่สำคัญของประเทศ ด้านพืชได้แก่ ทุเรียน ลำไย มังคุด ลองกอง เป็นต้น.สำหรับทางด้านประมง จังหวัดจันทบุรีมีการเพาะเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม กุ้งกุลาดำ และปลากะพง โดยภาคเกษตรของจังหวัดจันทบุรีมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจจีน ที่เป็นตลาดสำคัญของผลไม้ส่งออก โดยเฉพาะทุเรียน ลำไยและมังคุด
.
ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ รัฐมนตรีฯ ยังได้มอบปัจจัยการผลิตให้แก่เกษตรกรจาก 5 หน่วยงานหลัก ได้แก่
- กรมพัฒนาที่ดิน
• มอบจุลินทรีย์ ปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ จำนวน 300 ชุด
• ผู้แทนรับมอบ 20 ราย - กรมปศุสัตว์
• มอบท่อนพันธุ์และเมล็ดพันธุ์พืชอาหารสัตว์ จำนวน 50 ชุด
• ผู้แทนรับมอบ 20 ราย - กรมประมง
• มอบพันธุ์ปลากะพงขาว จำนวน 6,000 ตัว
• ผู้แทนรับมอบ 20 ราย - สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)
• มอบโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร 200 ราย
• ผู้แทนรับมอบ 20 ราย - กรมส่งเสริมสหกรณ์
• มอบป้ายสนับสนุน รถบรรทุก 10 ล้อ พร้อมถังนำนมดิบ ให้แก่ สหกรณ์โคนมสอยดาว จำกัด
• มอบป้ายสนับสนุน รถโฟล์คลิฟท์ ขนาดไม่น้อยกว่า 3 ตัน ให้แก่ สหกรณ์การเกษตรนายายอาม จำกัด
• มอบป้ายสนับสนุน เงินกู้กองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) สำหรับ 3 โครงการบริหารจัดการธุรกิจรวบรวมผลไม้ ได้แก่:
• สหกรณ์การเกษตรนายายอาม จำกัด จำนวน 5,000,000 บาท
• สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสอยดาว จำกัด จำนวน 3,300,000 บาท
• สหกรณ์การเกษตรสอยดาว จำกัด จำนวน 2,000,000 บาท
.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการเพาะปลูกและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีภาคเกษตรเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ของจังหวัดจันทบุรีให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป.
ภาพ/ข่าว เอกลักษณ์ อานาภรณ์ ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี