
วันที่ 13 มีนาคม 2568 ที่ หมู่บ้านช้างเพนียดหลวง เลขที่ 99/9 หมู่ที่ 3 ตำบลสวนพริก อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดงานวันช้างไทยอย่างยิ่งใหญ่ เริ่มจากช่วงเช้าทำบุญตักบาตร พิธีบวงสรวงศาลประกำ ซึ่งเป็นศูนย์กลางความเชื่อของกลุ่มคนเลี้ยงช้าง โดยมี นายลายทองเหรียญ มีพันธ์ ประธานมูลนิธิพระคชบาล นำพี่น้องชาวช้างพร้อมช้างกว่า 70 เชือกเข้าร่วม
โดย นิมนต์ พระครูเกษมจันทวิมล หรือพระอาจารย์แดง เกจิชื่อดังเมืองกรุงเก่า เจ้าคณะตำบลท่าวาสุกีเขต 3 เจ้าอาวาสวัดป้อมรามัญ นำพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ และร่วมบังสุกุลให้แก่ครูบาอาจารย์ ควาญช้าง และช้างไทยที่ล้ม พร้อมประพรมน้ำพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ช้าง ควาญช้าง และผู้เข้าร่วมพิธี
ทั้งนี้ยังเป็นปีแรก ของ ช้างแฝด คู่แรกของโลก ได้ร่วมงาน วันช้างไทย ซึ่งเกิด เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 7 มิถุนายน 2567 จาก พังจามจุรี อายุ 36 ปี ได้ตกลูกช้างออกมาเป็นเพศผู้ มีน้ำหนักประมาณ 80 กิโลกรัม ผ่านไป 18 นาที ก็ตกลูกช้างออกมาเป็นตัวที่ 2 เป็นเพศหญิง น้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม สร้างความตื่นเต้นดีใจ
และ เมื่อเวลา 10.09 น.วันที่ 4 ตุลาคม 2567 ที่ หมู่บ้านช้างเพนียดหลวง สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานชื่อลูกช้าง แฝดต่างเพศชาย – หญิง ซึ่งเป็นลูกของ พ่อช้างคือ พลายสยาม อายุ 29 ปี และแม่ช้าง พังจามจุรี อายุ 36 ปี ที่ตกลูกออกมาเป็นช้างแฝดต่างเพศ เมือวันที่ 7 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา
ชื่อลูกช้างแฝด ตามคำกล่าวบังคมทูล ขอพระราชทานชื่อ ลูกข้างแฝด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่วังช้างอยุธยาแลเพนียด ทรงพระราชทานชื่อลูกข้างแฝด
- ชื่อลูกช้างพลาย ว่า “ พลายสรรพลักษณ์โสภณ ” ( พลาย – สับ – พะ – ลัก – โส – พน ) หมายความว่า พลายที่มีลักษณะทั้งหมดงามสง่า
- ชื่อลูกช้างพัง ว่า “ พังสกลลักษณ์โสภิต ” ( พัง – สะ – กน – ลัก – โส – พิด ) หมายความว่า พังที่มีลักษณะทั้งหมดสวยงาม
วันช้างไทย 13 มีนาคม วันช้างไทย ริเริ่มจากคณะอนุกรรมการประสานงานการอนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานประสานงาน องค์การภาครัฐและเอกชนที่ทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้างไทยคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเล็งเห็นว่าหากมีการสถาปนาวันช้างไทยขึ้น จะช่วยให้ประชาชนคนไทย หันมาสนใจช้าง รักช้าง หวงแหนช้าง ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการให้ความช่วยเหลืออนุรักษ์ช้างมากขึ้น
คณะอนุกรรมการฯ จึงได้พิจารณาหาวันที่เหมาะสม ซึ่งครั้งแรกได้พิจารณาเอาวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทำยุทธหัตถี มีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา แต่วันดังกล่าวถูกใช้เป็นวันกองทัพไทยไปแล้ว จึงได้พิจารณาวันอื่น และเห็นว่าวันที่ 13 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการคัดเลือกสัตว์ประจำชาติ มีมติให้ช้างเผือกเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยนั้นมีความเหมาะสม จึงได้นำเสนอมติตามลำดับขั้นเข้าสู่คณะรัฐมนตรี โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อีกทางหนึ่ง ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 เห็นชอบให้ วันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี เป็น วันช้างไทย และได้ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2541ลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2541[2]
ผลจากการที่ประเทศไทยมีวันช้างไทยเกิดขึ้น นับเป็นการยกย่องให้เกียรติว่าเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญอีกครั้ง นอกเหนือจากเกียรติที่ช้างเคยได้รับในอดีต ไม่ว่าจะเป็นช้างเผือกในธงชาติ หรือช้างเผือกที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ หรือสัตว์คู่พระบารมีของพระมหากษัตริย์