
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเย็นวันนี้ 11 มี.ค.68 ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.ตฤณธวัช ปัญญาธร รอง ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี ว่าที่ พ.ต.ต.ธนพงษ์ พลายเพชร สว.ตม.จว.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากสายข่าว ตม.กาญจนบุรี ว่า จะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย เข้ามาในพื้นที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จึงสังการให้เจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรี บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ไทรโยค เจ้าหน้าที่ ตชด.136 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค ตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณจุดตรวจถาวรไทรโยค บนถนนสาย 323 ไทรโยค-กาญจนบุรี หมู่ 4 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะต้องสงสัย MG หมายเลขทะเบียน 3 ฒฎ 356 กทม.ขับมาจากทางด้าน ต.ไทรโยค มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี เมื่อมาถึงด่านตรวจเจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น แต่คนขับไม่ยอมแถมยังเหยียบคันเร่งฝ่าด่านหลบหนีไปตามถนนสาย 323 อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด โดยคนขับได้ขับหลบหนีไปทาง ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จนกระทั่งถังถนนด้านหลังโรงเรียนบ้านแก่งสารวัตร ต.วังกระแจะ ระยะทางไกลกว่า 12 กิโลเมตร คนขับจึงจอดรถเพื่อยอมจำนนเพราะรู้ตัวว่าหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว ทราบชื่อคนขับคือ นายวีรพงษ์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 23 ปี ชาวหมู่ 2 ชุมชนบ้านวังกะ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
ส่วนภายในรถพบแรงงานต่างด้าวทั้งชายหญิงนั่งเบียดเสียดกันมาเต็มห้องโดยสาร รวมจำนวน 9 ราย เป็นชาย 3 ราย หญิง 6 ราย และนอกจากนี้ยังมีเด็กนั่งปะปนมาด้วยอีก 2 ราย หลังจากจับกุมตัวเอาไว้ได้เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวมาสอบปากคำที่ด่านตรวจถาวร อ.ไทรโยค
นายวีรพงษ์ ผู้ต้องหาที่เป็นคนขับยอมรับสารภาพว่า ตนขับรถยนต์คันดังกล่าวไปรับแรงงานชาวเมียนมาในพื้นที่ ต.ไทรโยค(ไทรโยคใหญ่) โดยได้ค่างจ้างเป็นเงินคนละ 500 บาท เป้าหมายคือนำแรงงานไปส่งในยังจุดนัดพบท้องที่ ต.หนองบัว อ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อไปถึงจะมีคนขับรถมารับช่วงต่อ ระหว่างเดินทางก็มาถูกเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามจับกุมตัวได้เส่ยก่อน
ส่วนกลุ่มแรงงานชาวเมียนมากให้การว่าพวกตนหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรทางด้านบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จากนั้นมาลงเรือแล้วขึ้นฝั่งโดยมีรถยนต์มารับช่วงหลายทอด จนกระทั่งมาถึงท้องที่ ต.ไทรโยค (ไทรโยคใหญ่) อ.ไทรโยค นายวีรพงษ์ ได้มารับอีกทอดหนึ่ง ทุกคนกำลังเดินทางไปทำงานในพื้นที่ กทม.ส่วนเรื่องค่าเดินทางยังไม่ได้พูดคุยตกลงกันว่าจะจ่ายคนละเท่าไหร่ระหว่างเดินทางไปยังจุดนัดหมายในพื้นที่ ต.หนองบัว ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามจับกุมตัวเสียก่อน
หลังจากผู้ต้องหายอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรีพร้อมชุดจับกุม จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยคดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยนายวีรพงษ์ คนขับถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน “ช่วยเหลือหรือซ่อนเร้นด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม” ส่วนกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาถูกดำเนินคดีตาม พรบ.คนเข้าเมือง ในความผิดฐาน“เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย”
ทั้งนี้ พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี กล่าวว่า ตม.กาญจนบุรี ได้ดำเนินการตามนโยบาย ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช./ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ได้สั่งการให้ สตม. สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิดอย่างเข้มงวด ที่ผ่านมา ตม.กาญจนบุรี และหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ได้บูรณาการร่วมกันติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาแล้วหลายคดี
แต่คดีนี้ผู้ต้องหาที่เป็นคนขับรถไม่ยินยอมให้ตรวจค้น และได้เหยียบคันเร่งหลบหนีการจับกุมเป็นระยะทางไกลกว่า 12 กิโลเมตร จึงสามารถจับกุมตัวเอาไว้ได้ การขับรถไล่ล่ากลุ่มผู้ต้องหาเหล่านี้ค่อนข้างเสี่ยงและอันตราย ตนจึงมอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ ตม.ทุกนายต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยของทุกคนให้มากที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 10 มี.ค.68 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ลงนามในประกาศคำสังจังหวัดกาญจนบุรีไปถึงนายอำเภอของจังหวัดกาญจนบุรีทั้ง 13 อำเภอ เรื่อง การถอนสัญชาติไทยของผู้ซึ่งมีสัญชาติไทย และการยกเลิกเพิกถอนสถานะของคนต่างด้าวหรือคนที่ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งกระทำความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง คดีเกี่ยวกับยาเสพติด และ คดีเกี่ยวกับการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หรือแรงงานเถื่อน
บุคคลที่มีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยเลข 6 ,0-89 และ 0-00) ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การกำหนดเขตพื้นที่ควบคุมและการอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวออกนอกเขตพื้นที่ควบคุม ลงวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2559 หากพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และกระทำความผิดฐานเป็นผู้นำพาหรือให้ที่พักพิงต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าครอบครัว หรือสมาชิกในครอบครัวเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีหลักฐานชัดแจ้ง เช่น รายงานการข่าวจากหน่วยความมั่นคง หรือคำพิพากษาศาล เป็นต้น ย่อมเข้าข่ายความผิดแห่งพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ให้ทุกอำเภอดำเนินการเพิกถอนสัญชาติผู้กระทำความผิดในทันที
……………………………
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
(หมายเหตุคนขับ นายวีรพงษ์ หงษ์รัตนศักดา อายุ 23 ปี ที่อยู่ 831 ม.2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จว.กาญจนบุรี-รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (กระบะ) MG ทะเบียน 3ฒฎ 356 กทม.) (กรุณาเบลอหน้า)