วันนี้ 10 มี.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปยังวัดลิเจีย ตั้งอยู่ในอำเภอสังขละบุรี ทางวัดได้เตรียมพร้อมหากทางญาติอดีตพระยันตระ จะนำศพหรือกระดูก นำมาตั้งไว้ยังวัดแห่งนี้ ซึ่งในอดีตประมาณ 30 ปี ที่ผ่านมาพระยันตระ โด่งดังมาก อดีตนายบัญหาร ศิลปะอาชา นายกรัฐมนตรี พร้อมครอบครัว ยังเดินทางไปกราบสักการะถึง สำนักวัดป่าสุญญตาราม ปัจจุบันได้ตั้งเป็นวัดลิเจีย ด้วยเช่นกัน

เมื่อสำหรับประวัติของ อดีตพระยันตระ นั้น มีชื่อเดิมว่า นายวินัย ละอองสุวรรณ เกิดวันที่ 14 ต.ค. 2494 เคยอุปสมบทที่วัดรัตนาราม อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี 2517 โดยแทนตัวเองว่า “พระยันตระ” แปลว่า ผู้ไกลจากกิเลส ที่เคยใช้มาตั้งแต่ยังเป็นฤๅษียันตระ
เมื่อบวชแล้วเป็นที่รู้จักดี ทำให้มีผู้ศรัทธาบวชเพื่อเข้าเป็นลูกศิษย์มากมาย ทำให้เขามักแวดล้อมไปด้วยพระสงฆ์คอยอุปัฏฐากอยู่เสมอ ๆ นอกจากนี้ ยังมีผู้ศรัทธาสร้างสำนักวัดถวายเขาหลายแห่ง โดยทุกวัดที่สร้างในสำนัก เขาจะใช้คำว่า “สุญญตาราม” ประกอบด้วยเสมอ สำนักที่เป็นที่รู้จักดีคือ วัดป่าสุญญตาราม กาญจนบุรี และยังมีสำนักวัดป่าสุญญตารามของเขา ในต่างประเทศอีกหลายแห่ง เช่นที่ วัดป่าสุญญตาราม เมืองบันดานูน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น
ในที่สุดเกิดการฟ้องร้องเป็นคดีความหลายข้อหา เมื่อปี 2537 จนในที่สุด เขาได้ถูกมติมหาเถรสมาคมพิจารณาอธิกรณ์ปรับให้เขาพ้นจากความเป็นพระภิกษุ เพราะพิจารณาได้ความว่า เขาต้องอาบัติหนัก ดังที่ถูกฟ้องร้องแต่อดีตพระยันตระไม่ยอมรับมติดังกล่าว พร้อมปฏิญาณตนว่ายังมีสถานะเป็นภิกษุอยู่ โดยเปลี่ยนจีวรเป็นสีเขียว เวลานั้นมีการเรียกอดีตพระยันตระว่า “จิ้งเขียว” ก่อนที่จะมีข่าวว่าออกจากประเทศไทยไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา และได้รับสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง กระทั่ง 20 ปีต่อมา อดีตพระยันตระ กลับมาปรากฏตัวที่ไทยอีกครั้ง เมื่อคดีหมดอายุความ เมื่อเดือนเมษายนปี 2557
ได้มาพักอยู่ที่อาศรมที่ปลูกสร้างขึ้น หลังบ้านเดิมของอดีตพระยันตระ ซึ่งทราบว่าจะ อดีตพระยันตระ ได้เดินทางกลับไทย และได้เดินทางไปอาศัยที่ สำนักป่าสุญญตารามเกริงกระเวีย ก่อนเดินทางกลับไปอยู่ที่บ้านเกิด อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
นางสาวรุ่งทิพย์ สิงห์ทอง ขายเครื่องดื่มปากทางเข้าสำนักป่าสุญญตาราม กล่าวว่ารู้สึกเสียใจอย่างมาก พราะอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่เด็กช่วงนั้นอยู่ชั้นป. 1 ถ้าเป็นไปได้อยากให้เอาศพของท่านมาเก็บไว้ที่สำนักป่าสูญญตาราม
ส่วนนางสาว สายบุญชัย กับนายวิทูล มั่นคง สองสามีภรรยา ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าได้ดูข่าว เมื่อประมาณตี 5 ที่ผ่านมารู้ศึกเสียใจมากถ้าหากเป็นไปได้อยากให้ลูกศิษย์ท่านมาเก็บไว้ที่วัดเพราะตัวผมเองโตมากับวัดนี้รู้จักท่านพระอาจารย์ยันตระมาตั้งแต่เด็กและได้บวชสำมเณรภาคฤดูร้อนและได้สระสมเหรียญล๊อกเกตของท่านไว้มากมายเพื่อเป็นการยึดเหนี่ยวจิตใจ ในขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังสำภาษณ์สองสามีภรรยาคู่นี้
ผู้สื่อข่าวได้เห็นนางปารีชาติ ศรีเมฆแม่ค้าขายอาหารตามสั่งที่น้ำตกกริ่งกระเวีย นั่งร้องไห้อยู่ในร้าน ได้กล่าวว่านับถีอท่านพระอาจารย์นัยตระมากเวลาที่ขายของได้คิดถึงท่านจะร้องเพลงที่มีชื่อว่าสูญญตารามถ้าเป็นไปได้อยากจะให้ศิษยานุศิษย์ของท่านนำศพกลับมาทำพิธีที่วัดของท่าน
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
Discussion about this post