
วันนี้ 10 มีนาคม 2568 ที่ห้องประชุมเกาะหลัก ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมกรณีการป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กถูกล่วงละเมิด นายสินาทร โอ่เอี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายอร่าม ญาณแก้ว นายอำเภอกุยบุรี พ.ต.อ.วรวัชร แค้มวงค์ ผกก.สภ.กุยบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม โดยการประชุมในครั้งนี้ ที่ประชุม ได้ติดตามและรายงานผลการดำเนินคดี จากกรณี ข้าราชการครูของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในข้อหาครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก ที่ประชุมมีการหารือในเรื่องการเยียวยาช่วยเหลือผู้เสียหาย และการปฏิบัติทางจิตวิทยาเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ทางด้านผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้แสดงความห่วงใยถึงครอบครัวและผู้เสียหาย และได้กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นละเอียดอ่อน และผู้เสียหายเป็นเด็กอายุน้อย ต้องมีวิธีในการปฏิบัติอย่างระมัดระวังจากสื่อสังคม และอยู่ในความดูแลโดยเจ้าหน้าที่อย่างถูกต้องตามวิธีการเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ครอบครัวและผู้เสียหายได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจและชื่อเสียง และให้โรงเรียนรีบดำเนินการส่งข้อมูลเพื่อดำเนินการแก้ไขและป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำภายในสถานศึกษา รวมถึงที่ประชุม ได้มีแนวทางหารือเรื่องการวางมาตรการระวังภัยจากบุคคลผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการก่อเหตุ และการปกป้องคุ้มครองครอบครัวเหยื่อผู้เสียหายซึ่งเป็นเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นจากในชุมชน สถานศึกษาหรือไม่ว่าที่ใด ต้องเป็นที่ๆปลอดภัย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ให้ประสานงานนายอำเภอไปยังผู้นำชุมชนแต่ละท้องที่ และครูอาจารย์ในสถานศึกษา คอยระวังและรายงานผู้ที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก
สำหรับข้อมูลเบื้องต้นในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งข้อหา ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อประโยชน์ทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น และเบื้องต้นได้ให้ออกจากราชการไว้แล้ว ทางตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบแล้วว่า ผู้ก่อเหตุได้อัปโหลดสื่อลามกขึ้นในระบบคลาวด์ของแพลตฟอร์มโดยไม่ได้มีการเผยแพร่ ส่วนข้อหาอื่นๆไม่ว่าจะเป็นกระทำชำเรา อนาจาร และพฤติกรรมแสวงหาประโยชน์จากเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ผู้กระทำมีอำนาจเหนือเด็กที่ผู้ก่อเหตุเป็นครูกระทำต่อนักเรียนที่อยู่ในความดูแล ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวน และรอสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ทางด้านการเยียวยาช่วยเหลือเด็กที่ได้ผลกระทบทางจิตใจก็ให้ปรึกษาทีมสหวิชาชีพเพื่อการฟื้นฟูรักษา และได้มีประสานงานไปยังทุกครอบครัวผู้เสียหายเพื่อนำข้อมูลเข้าที่ประชุมอนุกรรมการอย่างเร่งด่วนที่สุดเพื่อช่วยเหลือเยียวยาในส่วนค่าเสียหายต่อไป