“อนุทิน” ชื่นชม จนท.สกัดยาไอซ์ 1,500 กิโล ย้ำรถบรรทุกทหารไม่มีรุ่นนี้

วันที่ 9 มี.ค.2568 นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 5 ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการสกัดกั้น ยาไอซ์ จำนวน 1,498 กิโลกรัม และจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน โดยมีการดัดแปลงรถบรรทุกให้คล้ายกับรถบรรทุกของทหาร เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยการสกัดกั้นการจับกุมครั้งนี้พบว่าเป็นเครือข่ายของนายนายชุติธัญญ์ หรือเสี่ยจิว จิววิริยไพศาล ซึ่งสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2567 เวลาประมาณ 02.30 น. เจ้าหน้าที่ทหาร บก.ควบคุมผาแด่น หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ได้ตรวจยึดไอซ์ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีเขียวคล้ายถุงชา น้ำหนักประมาณถุงละ 1 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในกระสอบหลากสีดัดแปลงเป็นเป้สะพายหลัง จำนวน 44 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 1,418 กิโลกรัม บรรทุกอยู่ในรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น ดีแม็กซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ขอนแก่น

จากนั้นได้สืบสวนขยายผล กลุ่มเครือข่ายนี้ โดยต่อเนื่อง และพบว่า มี นายชุติธัญญ์ หรือเสี่ยจิว เป็นผู้สั่งการควบคุมการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จึงได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสามารถสกัดการลำเลียงได้ในครั้งนี้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นรายใหญ่ที่สุดอีกรายหนึ่ง ที่ทำให้ทราบถึงเครือข่ายยาเสพติดรายนี้ว่าใช้การอำพรางตัวเป็นเจ้าหน้าที่โดยใช้รถเหมือนรถทหาร และผู้ต้องหาที่บาดเจ็บก็เคยเป็นทหารมาก่อนแต่ถูกปลดออก เพราะไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ก็ได้อาศัยชั้นเชิงเดิมในการ
กระทำความผิด

ทั้งนี้ยาเสพติดชุดนี้คาดว่ามีเป้าหมายจะส่งไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งประเมินราคาคร่าวๆ ได้กิโลกรัมละ 1 ล้านบาท ของกลางทั้งหมดจึงมีมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท จึงขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่สกัดกั้นเอาไว้ได้อย่างกล้าหาญ

พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ในนาม นบ.ยส.35 ซึ่งประกอบด้วยตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และ ป.ป.ส.ได้สืบทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดรายนี้เป็นของ “เสี่ยจิว” หรือนายชุติธัญญ์ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นชาวลีซอ ชาวดอยแม่สลอง แต่มีที่อยู่ที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีบ้านหรู อยู่ที่ ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย มีสวนทุเรียนอยู่ที่ อ.แม่สาย และ ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มีรีสอร์ทอยู่ที่ อ.เมืองเชียงราย และมีเมียน้อย 5 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของเสี่ยจิวมาตั้งแต่ปี 2566 มีการสกัดยึดของกลางได้แต่ยังจับเสี่ยจิวไม่ได้

จนกระทั่งวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบการเคลื่อนไหวโดยเสี่ยจิวและพวกอีก 6 คน พร้อมรถยนต์ 2 คัน ไปพบปะกันที่รีสอร์ทของเสี่ยจิวเขต อ.เมืองเชียงราย จากนั้นวันที่ 7 มี.ค.พากันไปที่สวนทุเรียนที่ ต.บ้านแซว ก่อนจะแยกย้ายกันขับรถ 5 คัน หนึ่งในนั้นเป็นรถบรรทุก 6 ล้อ ที่อำพรางเป็นรถขนส่งทหารพากันขึ้นไปบนดอยแม่สลอง หมู่บ้านสันติคีรี หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง

กระทั่งเวลา 03.30 น.วันที่ 8 มี.ค.เจ้าหน้าที่เห็นรถบรรทุก 6 ล้อไปจอดอยู่หน้าอนุสรณ์สถานวีรชนในหมู่บ้านสันติคีรี จึงเข้าไปตรวจสอบไม่พบบุคคลใดแต่พบถังโลหะขนาด 200 ลิตร ภายในบรรจุไอซ์จำนวนมากดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงปิดล้อมดอยแม่สลอง เอาไว้กระทั่งเวลา 04.30 น.วันเดียวกันได้มีรถยนต์เอนกประสงค์ สีขาว มีชาย 2 คนและหญิง 1 คนขับบนถนนจึงเข้าไปตรวจสอบแต่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงทำให้เกิดการปะทะกันและคนร้ายบาดเจ็บ 2 คนดังกล่าว

นอกจากนี้จับกุมคนเครือข่ายที่ขับรถหลบหนีได้ที่ด่านตรวจกิ่วสะไต ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้อีก 4 คน รวมผู้ต้องหาได้ 7 คน ก่อนที่ในวันที่ 9 มี.ค.ได้ไปตรวจที่บ้านเสี่ยจิว พบถังลักษณะเดียวกันอีกหลายถัง พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนอีกเป็นจำนวนมาก ลูกระเบิดสังหาร 7 ลูก เสื้อลายพลางทหาร 5 ตัว โดยตัวหนึ่งถักเป็นชื่อของเสี่ยจิวส่วนที่เหลือเป็นของผู้ที่ยิงต่อสู้กับตำรวจ 2 คน เมื่อไปตรวจตที่สวนทุเรียนที่ ต.บ้านแซว พบเมียน้อยของเสี่ยจิวพร้อมเสื้อลายพลางทหารและยึดรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุได้อีก 1 คัน และของกลางเป็นอาวุธปืน AK กระสุน และระเบิด รวมของกลางที่ยึดทรัพย์คาดว่าประมาณ 40 ล้านบาท ปัจจุบันศาลได้ออกหมายจับเสี่ยจิวไว้แล้ว

ทางด้าน พล.ต.กิดากร กล่าวว่า คดีนี้เป็นผลมาจากวันที่ 26 ธ.ค.2567 ที่ทหารได้สกัดรถขนไอซ์น้ำหนัก 1,413 กิโลกรัมได้ในท้องที่ อ.แม่ฟ้าหลวง แต่ไม่พบคนร้าย โดยพบโทรศัพท์มือถืออยู่ในรถจึงได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการขยายผลจับกุมและยึดไอซ์ของเครือข่ายเดียวกันได้ในครั้งนี้ สำหรับรถบรรทุก 6 ล้อ ที่ใช้ขนทางกองทัพบกแจ้งว่าไม่มีรถรุ่นนี้ที่ใช้ในกองทัพ ซึ่งเป็นการอำพรางให้คล้ายรถขนส่งทหาร โดยพ่นสีให้มีสีเขียว ส่วนป้ายทะเบียนนั้นได้ตรวจสอบแล้วพบตรงกับหมายเลขทะเบียนของรถทหารคันหนึ่ง แต่เป็นรถกระบะที่ปลดระวางและจำหน่ายซากไปนานแล้ว ถูกทำขึ้นมาใหม่และนำมาใช้ ส่วนผู้ต้องหาชายทั้ง 2 คนเคยเป็นทหารแต่ได้ถูกปลดออกจากราชการนานแล้ว

ด้านเจ้าหน้าที ป.ป.ส. ได้เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะได้มีการขยายผลยึดทรัพย์สินที่คาดว่าได้มาจากการค้ายาเสพติด ของเครือข่ายเสี่ยจิว ซึ่งทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลางซึ่งจะสามารถดำเนินการได้ในอีกไม่กี่วันนี้