
ศูนย์ดำรงธรรมต้องลงพื้นแก้ปัญหากรณีพิพาทของชาวบ้าน หลังเครื่องจักรชลประทานเร่งสร้างแนวทางน้ำเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมซ้ำซาก แต่เจอมือมืดโทรข่มขู่ให้หยุดทำงาน สุดท้ายหลังลงมติแล้วยังต้องใช้กำลังชาวบ้านช่วยเฝ้าช่วงทำงานอีกแรง
ปัญหาข้อพิพาทของชาวบ้านในบ้านกุงไม้สัก ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ที่แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ทั้งกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุน้ำป่าไหหลากท่วมขังจนไม่สามารถทำการเกษตรได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา และอีกกลุ่มเป็นกลุ่มที่มีผู้นำหมู่บ้านอยู่เบื้องหลังที่ไม่ต้องการให้เข้าแก้ไขปัญหา อ้างว่ากระทบกับพื้นที่ไร่นาของชาวบ้านหลายรายที่จะต้องเสียที่ดินไปจากการก่อสร้างแนวคลองระบายน้ำแม่สะงี-แม่สะงา ในขณะที่สำนักงานชลประทานแม่ฮ่องสอนก็ต้องเร่งดำเนินโครงการการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง แต่กลับเจอปัญหามีมือมืดโทรขัดขวางไม่ให้เข้าดำเนินการต่อ จนกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งและมีการเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น
ล่าสุดตั้งแต่ช่วงบ่ายของวานนี้ (วันที่ 4 มีนาคม 2568) เจ้าหน้าที่ของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอนและสำนักงานชลประทานแม่ฮ่องสอน พร้อมเจ้าหน้าที่รางวัดและสำรวจ ได้ลงพื้นที่เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงและปัญหาที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านบ้านกุงไม้สัก หมู่ที่ 2 ตำบลปางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมกับประชุมชาวบ้าน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและให้ลงมติว่าจะให้ดำเนินการต่อหรือจะให้หยุดการดำเนินการเพียงเท่านี้ ซึ่งชาวบ้านและเจ้าของที่นากว่า 30 ราย ได้ยกมือเห็นชอบให้ดำเนินการต่อ โดยให้เหตุผลว่านอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา จนทำให้เกษตรกรหลายรายไม่สามารถทำการเกษตรได้ โดยเฉพาะในช่วงของหน้าฝนที่เกิดน้ำป่าไหหลากและท่วมขังอย่างยาวนาน อีกส่วนหนึ่งก็ต้องการให้เจ้าหน้าที่ทำการรังวัดแนวลำน้ำเดิมที่มีบุคคลบางกลุ่มทำการเบี่ยงเส้นทางน้ำจนเปลี่ยนทิศเข้าไปหลากท่วมพื้นที่การเกษตร เพื่อให้ขุดลอกตามเส้นทางน้ำเดิม ถึงแม้ว่าจะต้องมีเจ้าของที่ดินบางรายสูญเสียที่ทำกินที่ได้จากดินงอกเงยไปบ้างก็ตามและที่บางแปลงก็อยู่ระหว่างการปลูกกระเทียม ถั่วลิสง
หลังจากได้ผลจากมติของชาวบ้านแล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายควบคุมเครื่องจักรของสำนักงานชลประทานแม่ฮ่องสอน ก็ได้ขอให้กลุ่มชาวบ้านช่วยกันร่วมตรวจสอบตามแนวรังวัด ช่วยกันรื้อถอนกระต๊อบและต้นไม้ที่อยู่ในแนวการขุดลอก นอกจากนี้ยังให้ชาวบ้านได้ช่วยกันตรวจสอบว่าโทรศัพท์ลึกลับที่โทรเข้ามาข่มขู่พนักงานขับเครื่องจักรกลไม่ให้ดำเนินการต่อนั้นมาจากที่ไหนหรือเป็นผู้ใด จากนั้นชาวบ้านเองก็ได้แบ่งกำลังให้คอยเฝ้าดูแลการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานได้ตามแผนที่กำหนดไว้
จากการเฝ้าระวังมาจนถึงวันนี้ (วันที่ 5 มีนาคม 2568) ชาวบ้านหรือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนก็ได้จัดกำลังของชาวบ้านมาช่วยเฝ้าและดูแลการทำงานของเจ้าหน้าที่ จนสามารถเร่งการทำงานและทำการเปิดเส้นทางน้ำเดิมได้ตามแผนงาน ส่วนโทรศัพท์ลึกลับที่ขัดขวางการทำงานนั้นชาวบ้านในพื้นที่ต่างทราบกันดีว่ามาจากลุ่มไหน ในขณะนี้ได้ส่งรายละเอียดให้กับทางฝ่ายปกครองและศูนย์ดำรงธรรมดำเนินการตามระเบียบต่อไปแล้ว ซึ่งชาวบ้านเองก็ได้รายละเอียดเพียงเล็กน้อยว่าน่าจะมาจากกลุ่มของผู้นำกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ที่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับชาวบ้านมาโดยตลอด เพราะมีที่ดินอยู่ติดกับแนวเขตที่เจ้าหน้าที่กำลังขุดลอกให้กลับไปอยู่แนวเขตเดิม ที่อาจจะกระทบกับที่ดินของตนเองและญาติๆ
ส่วนชาวบ้านเองต่างก็ดีใจที่ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนจัดสรรโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนได้เร็วขึ้น เพราะจากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนเจ้าของที่ดินจำนวนมากไม่สามารถเพาะปลูกข้าวหรือพืชผลทางการเกษตรได้อย่างสิ้นเชิงและผลจากกระแสน้ำที่เปลี่ยนทิศหลากเข้าพื้นที่ไร่นานั้นก็ยังหอบเอาเศษหิน ดินและทรายเข้าไปทับผมเต็มพื้นที่ ยิ่งทำให้การฟื้นฟูที่ทำกินของตนเองยากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะนาข้าวรอบๆ สะพานซูตองเป้ ของวัดภูสมะณาราม ที่จนถึงทุกวันนี้ยังไม่สามารถกลับมาทำการเกษตรได้เหมือนเดิมเท่าที่ควร
/////////////////////////////////
วิรัตน์ นันทะพรพิบูลย์ จ.แม่ฮ่องสอน
Discussion about this post