
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจตรีคงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พันตำรวจเอก ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล.และ พันตำรวจตรีโจ เสาร์ประโคน สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.สั่งการให้ ร้อยตำรวจเอก อำนาจ สีนวล รอง สว.ฯ ร้อยตำรวจตรี พีรธรรม หนุนุรัตน์ ร้อยตำรวจตรี สุรศักดิ์ จิตมณี ร.ต.ท.นิกร สีเมือง รอง สว.(ป) ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.,พร้อมด้วย จนท.ตร.ปคม., จนท.ตร.สภ.ไทรโยค, จนท.ตม.กาญจนบุรี, จนท.ตชด.136, จนท.ทหาร ฉก.ลาดหญ้า, จนท.ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค ร่วมปฏิบัติการจับกุมการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย
สืบเนื่องจากภาพวีดีโอจากกล้องหน้ารถของตำรวจทางหลวงกาญจนบุรี ได้ออกตรวจในเส้นทางถนนสาย 323 ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง พบเห็นรถกระบะต้องสงสัยขับผ่านไปด้วยความเร็วสูง จึงได้ขับติดตามไปตามเส้นทางขาเข้าเมืองกาญจนบุรี
รถคันดังกล่าวเห็นรถตำรวจทางหลวงวิ่งติดตาม จึงได้ขับย้อนศรเลี้ยวเข้าไปหมู่บ้านตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงประสานกำลังทหารชุด ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ฯ ตำรวจ สภ.ไทรโยค ตชด.ที่ 134 ตม.จ.กาญจนบุรี ให้สกัดจับอีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ติดตามไปจนถึงถนนทางดินลูกรัง หน้าสถานีรถไฟวังสิงห์ พบชาวเมียนมากำลังลงจากรถ เจ้าหน้าที่จึงตะโกนว่า ไม่ต้องหนี หยุดนะ พร้อมทั้งเข้าพูดคุยให้บุคคลต่างด้าวนั่งลง ส่วนคนขับทิ้งรถวิ่งหลบหนีไปได้จากนั้นจึงแจ้งให้หน่วยที่สกัดจับมาควบคุมตัวบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมา ทั้ง 32 คน ไปสอบสวนที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงไทรโยค
จากการตรวจสอบรถยนต์ที่ขนบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมามา เป็นรถยนค์กระบะยี่ห้ออีซูซุรุ่นดีแม็ก สีเทา ทะเบียน บบ. 6998 พระนครศรีอยุธยา ติดตั้งหลังคากระบะบรรทุกตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทางต่างด้าว ทั้ง 32 คน พบว่าไม่มีเอกสารหนังสือเดินทางหรือเอกสารในการเดินทางมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด จึงแจ้งข้อกล่าวหา ในฐานความผิด เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต
จากการสอบสวนปากคำ บุคคลต่างด้าว ทราบว่า ทั้งหมดเดินทางมาจากพญาตองซู ประเทศเมียนมาร์ โดยผู้ต้องหา 26 คน จะเดินทางไปเกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี อีก 4 คน จะเดินทางไป กรุงเทพมหานครฯ ส่วนอีก 2 คนจะไป อำเภอมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร จากนั้นจะมีนายจ้างมารับต่อ ส่วนคนที่จะไปเกาะสมุย ก็จะเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย คิดค่าเดินทางคนละ 40,000 บาท ส่วนคนที่จะไปกรุงเทพฯ คิดค่าเดินทางคนละ 11,500 บาท ส่วนคนที่จะเดินทางไปมหาชัย คิดค่าเดินทางคนละ 13,000 บาท หลังบันทึกการจับกุมเป็นที่เรียบร้อย จึงควบคุมตัวบุคคลต่างด้าวทั้งหมดพร้อมของกลางรถยนต์กระบะ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในการจับกุมในครั้งนี้ จะพบว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับ จะโดยสารมากับรถกระบะแค่ตัวเปล่ากับโทรศัพท์มือถือ ส่วนกระเป๋าสัมภาระน่าจะอยู่ในรถอีกคันซึ่งหลบหนีการจับกุมไปได้ หรืออาจจะเดินทางล่วงหน้าไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนเชือกสีที่ผูกในข้อมือก็จะไว้คัดแยกเวลาที่ไปถึงจุดหมาย โดยเชือกสีเหลืองจะไปที่เกาะสมุย
ส่วนที่บริเวณสามแยกทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอทองผาภูมิ รวบ 45 แรงงานชาวเมียนมา สารภาพจ่ายค่าหัวสูงสุด 7 หมื่นบาท หวังไปทำงานที่มาเลเซีย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายเข้ามาในเขตพื้นที่ อำเภอทองผาภูมิ ด้วยการใช้เรือเป็นพาหนะ ไปขึ้นฝั่งที่บริเวณท่าเรือ บ้านขนุนคี่ หมู่ 4 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ หลังรับแจ้งจึงมอบหมายให้นายวัลลภ จินดา ปลัดอำเภอ นำกำลังสมาชิก อส.อำเภอทองผาภูมิ ที่ 9 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตชด.135 สนธิกำลังติดตามไปตรวจสอบบริเวณจุดที่ได้รับแจ้ง
ไปถึงพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ สีบอรนซ์ ทะเบียนจังหวัดกาญจนบุรี ต้องสงสัยว่าจะมารับกลุ่มแรงงานจอดดับเครื่องอยู่ที่ท่าลงเรือ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบผลปรากฏคนขับเห็นเจ้าหน้าที่เสียก่อนจึงอาศัยความมืดและความชำนาญเส้นทางวิ่งหลบหนีไปเจ้าหน้าที่ได้พยายามวิ่งตามแต่ไม่ทัน ส่วนกลุ่มแรงงานทั้งชายหญิง ที่กำลังขึ้นรถได้วิ่งหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ตามชายป่า เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังปิดล้อมเอาไว้และสามารถจับกุมแรงงานได้ทั้งหมด จำนวน 45 ราย
จนกระทั่งรุ่งสางหรือจวนสว่างเจ้าหน้าที่จึงสามารถลำเลียงกลุ่มแรงงานทั้งหมดมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่จุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ หมู่ 1 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ โดยแรงงานทั้ง 45 คน มีสภาพที่อิดโดยเนื่องจากไม่ได้หลับได้นอนรวมทั้งไม่ได้กินข้าวมาหลายวัน เจ้าหน้าที่จึงจัดหาอาหารพร้อมน้ำดื่มมาให้ ซึ่งเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนที่ทุกคนในโลกจะต้องมีสิทธิ์เท่าเทียมกันเมื่อยามหิวโหย
ทั้งนี้กลุ่มผู้ต้องหาให้การผ่านล่ามแปลว่า พวกตนทั้งหมดลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติด้านอำเภอสังขละบุรี เมื่อมาถึงท่าน้ำด้านหลังวัดแห่งหนึ่งมีนายหน้านำเรือมารอรับอยู่แล้ว 4-5 ลำ จากนั้นมาขึ้นฝั่งที่ท่าน้ำบ้านขนุนคี่ ขณะกำลังขึ้นรถยนต์ที่มารับ ปรากฏว่าคนขับเห็นเจ้าหน้าที่เสียก่อนจึงทิ้งรถแล้ววิ่งหลบหนีไป ด้วยความตกใจพวกตนจึงหลบไปซ่อนตัวอยู่ในชายป่า แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับกุมตัวได้ทั้งหมด
สำหรับจุดมุ่งหมายคือต้องการเดินทางไปทำงานพื้นที่จังหวัดชั้นใน โดยต้องจ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมชาติคนละ 13,000-15,000บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง แต่บางรายต้องจ่ายมากถึง 70,000 บาท เพราะต้องการไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย หลังจากกลุ่มผู้ต้องหายอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีตาม พรบ.คนเข้าเมือง ฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์