เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 14.30 น.อำนวยการโดย พล.ต.ต.ดเรศ กัลยา ผบก.ภ.จ.น่าน ,พ.ต.อ.ยุทธพงษ์ เมฆคะ ผกก.สส.ภ.จ.น่าน , พ.ต.ท.นิติภูมิ ผดุง รอง ผกก.สส.ภ.จ.น่าน ศปทส.ภ.จ.น่าน , พ.ต.อ.ภูมิชาย พันธ์กล้าผกก.ตชด33 ,พ.ต.ท.
พิเชษฐ์ หมายดี ผบ.ร้อย ตชด 324 ได้สั่งการให้ ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำจังหวัดน่าน นำโดย ร.ต.ต.ภูวิวัฒน์ อุตรพรหม ,ด.ต.กฤษดา ขัดเขียว พร้อมพวก จนท.ตร. ชปส.ร้อย ตชด.324 ,ร.ต.อ.ถวิล สายอินต๊ะ รอง สว.กก.4 บก.ปทส. ,ร.ต.อ. จิรายุ อิ่นแก้ว ,จ.ส.ต.กฤษณะ ปาคำ ผบ.หมู่ กก.ตชด.32 , ร.ต.อ.ถวิล สายอินต๊ะ รอง สว.กก.4 บก.ปทส. และ นายณัฐพล ชัยชนะ เจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดน่าน ได้จับกุม ผู้ต้องหา จำนวน 2 คนคือ
- นายยุทธ (นามสมมุติสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี หมู่ที่ 8 ต.ไหล่น่าน อ.เวียงสา จ.น่าน (ผู้ต้องหาที่ 1)
- นายศักดิ์ (นามสมมุติสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี หมู่ที่ 3 ต.แม่สา อ.เวียงสา จ.น่าน (ผู้ต้องหาที่ 2)
พร้อมด้วยของกลาง
1.รถแบคโฮ ยี่ห้อ Kobelco รุ่น SK135SR สีเขียว จำนวน 1 คัน จอดอยู่ในบ่อดินในที่เกิดเหตุ (อุปกรณ์ซึ่งได้ใช้ในการกระทำความผิด)
2.รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อ จำนวน 1 คัน ขับอยู่บริเวณบ่อดินซึ่งในขณะที่กำลังบรรทุกดินออกจากบริเวณบ่อขุด ดินไม่มีเลขที่ ท้องที่บ้านไหล่น่าน หมู่ 1 ต.ไหล่น่าน อ.เวียงสา จ.น่าน
หลังจากที่ จนท.ชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ร้อย ตชด.324 ได้รับเรื่องร้องเรียน/แจ้งเบาะแสแจ้งว่า “มีกลุ่มบุคคลนำรถแบคโฮลและรถบรรทุกไปลักลอบขุดดินไปจำหน่ายเพื่อการค้าอันเป็นการแสวงหาผลประโยชน์และกำไรอันเป็นการประกอบธุรกิจเชิงพานิชย์ พื้นที่ดิน สปก.โดยพื้นที่ดังกล่าวไม่มีเอกสารการครอบครอง โดยการกระทำดังกล่าวทำให้พื้นที่ป่าภูเขาได้รับความเสียหายซึ่งผู้กระทำกระทำการไปโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายอาญาของบ้านเมือง
หลังจากได้รับแจ้งแล้ว จึงเข้าทำตรวจสอบพบว่าเป็นจริงดังกล่าว พบรถแบคโฮลกำลังทำการขุดตักดินใส่รถบรรทุกอยู่บนภูเขา และมีรถบรรทุก 6 ล้อ ขับขี่ออกมาจากที่ดินแปลงหนึ่ง โดยที่ดินแปลงดังกล่าวมีลักษณะเป็นบ่อขุดดินซึ่งมีการนำดินออกไปนอกแปลง สภาพของพื้นที่เป็นภูเขาสูงไม่มีการล้อมรั้วรอบเพื่อแสดงอาณาเขตที่ดินแต่อย่างใด มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมอยู่หนาแน่น มีร่องรอยการใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ขุดดินออกในลักษณะสูงชัน ไม่พบป้ายแสดงข้อมูลการขุดดินหรือถมดินตามที่กฎหมายกำหนด หรือป้ายแสดงการได้รับอนุญาตหรือป้ายแสดงโครงการใด ๆ ปิดแสดงไว้ให้ประชาชนได้ทราบหรือรู้เห็นโดยเปิดเผยแต่อย่างใด คาดว่าพื้นที่ดังกล่าวน่าจะเป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ที่ประชาชนสามารถใช้ร่วมกันและน่าเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หากดำเนินการไปขอหมายค้นจะเนิ่นช้า ซึ่งรถแบคโฮและรถบรรทุกอุปกรณ์ซึ่งได้ใช้ในการกระทำความผิดมีล้อสามารถเคลื่อนย้ายได้จะถูกเคลื่อนที่และเคลื่อนย้ายไปเสียก่อน กรณีดังกล่าวนี้เป็นการกระทำผิดซึ่งหน้า เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปยังที่ดินแปลงดังกล่าวเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานเพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนและเพื่อทราบรายละเอียดแห่งความผิดที่เป็นประโยชน์ในการสืบสวน จึงได้เข้าไปยังที่ดินแปลงดังกล่าวและได้มีรถยนต์บรรทุกคันหนึ่งกำลังขับขี่สวนทางออกมาเจ้าหน้าที่จึงได้หยุดรถและให้คนขับลงจากบรรทุกคันดังกล่าว เพื่อเข้าทำการตรวจสอบ
แต่ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่สั่งให้รถบรรทุก 6 ล้อหยุดนั้นรถบรรทุก 6 ล้อได้ถอยรถไปยังบริเวณบ่อดินและได้เทดินที่ได้บรรทุกออกมาออกจากรถบรรกทุก 6 ล้อและได้จอดรถนิ่งอยู่ จึงได้แจ้งความประสงค์ให้บุคคลทั้งสองได้ทราบจากการสอบถามทราบว่าคนขับชื่อ นายศักดิ์ (นามสมมุติสงวนนามสกุล) รับว่าตน เป็นผู้ขับรถบรรทุก 6 ล้อคันดังกล่าว กำลังจะนำดินออกไปเทยังบริเวณที่ดินบริเวณสะพาน บ้านไหล่น่าน ต.ไหล่น่าน อ.เวียงสา จ.น่าน
หลังจากนั้นได้เข้าที่การตรวจสอบรถแบ็คโฮล ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยมี นายยุทธ (นามสมมุติสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี หมูที่ 8 ต.ไหล่น่าน อ.เวียงสา จ.น่าน ลงมาจากรถแบ็คโฮคันดังกล่าว และรับว่าตน เป็นผู้ขับรถแบคโฮลจากการได้สอบถาม นายยุทธฯ เกี่ยวกับหลักฐานเอกสารสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดินฯ บริเวณบ่อขุดดินในที่เกิดเหตุรวมถึงข้อมูลพยานหลักฐานเกี่ยวกับการขออนุญาตหรือได้รับอนุญาตเกี่ยวกับการขุดดินหรือถมดิน และข้อมูลพยานหลักฐานเกี่ยวกับการขออนุญาตหรือได้รับอนุญาตตั้งและประกอบกิจการโรงงาน ออกตามพระราชบัญญัติโรงงานฯ ตามกฎหมาย
เกี่ยวกับบ่อขุดดินดังกล่าว นายยุทธฯ ให้การกับจนท.ชุดจับกุมว่า ตนเองไม่ทราบว่าที่ดินแปลงดังกล่าวมีเอกสารการครอบครองประเภทใด และตนเองไม่ได้ดำเนินการในการขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ของรัฐแต่อย่างใด และให้การว่าตนได้รับการติดติอซื้อขายดินจากที่ดินของนายนอง (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) โดยนายนอง คิดค่าตอบแทนจากการขนดินออกเที่ยวละ 20 บาท ซึ่งตนเองได้ทำการขุดดินและลากดิน มาแล้วตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 และลากดินออกมาแล้ว จำนวนประมาณ 50 เที่ยว กระทั่งมาพบกับเจ้าหน้าที่ในวันเกิดเหตุ ซึ่งดินที่ได้ทำการขุดจะถูกนำไปถมยังที่ดินอีกแปลงหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ดินของผู้ว่าจ้าง อยู่ห่างจากที่ดินที่ทำการขุดประมาณ 1 กิโลเมตร โดยมีนายศักดิ์ฯ เป็นผู้ขับรถบรรทุกดินนำดินไปถม โดยให้ค่าตอบแทนเที่ยวละ 120 บาท
ต่อมาได้มีบุคคลหนึ่งนำพยานหลักฐานเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินแปลงที่เกิดเหตุมามอบให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบเอกสารดังกล่าว พบว่า
เป็นหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน โดยออกให้แก่ เจ้าของที่ดิน หมู่ 1 ต.กลางเวียง อ.เวียงสา จ.น่าน เพื่ออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน “เกษตรกรรม” ในเขตปฏิรูปที่ดิน แปลงเลขที่ 5 กลุ่ม จำนวนเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ 1 งาน 13 ตารางวา ออกให้ ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2537 โดยมีญาติ เป็นผู้รับโอนสิทธิ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 เมื่อตรวจสอบเอกสารดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดน่าน เข้าร่วมทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ต่อมาได้มี นายณัฐพล ชัยชนะ นิติกรชำนาญพิเศษ / ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมายสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดน่าน เข้าร่วมทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจสอบบริเวณพื้นที่บ่อขุดดินดังกล่าว โดยพบว่าบ่อขุดดินดังกล่าวมีความลึกจากแนวระดับดินเดิมลึกเกินกว่า 3.00 เมตร ตามที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ทำการตรวจวัดพื้นที่รอบปากบ่อขุดดินที่พบมีการขุดเอาดินหรือมีการเปิดใช้ประโยชน์ในที่ดินในลักษณะบ่อขุดดิน ค่าพิกัดรอบปากบ่อขุดดิน จำนวน 4 จุด
พื้นที่บ่อขุดดิน พบมีพื้นที่ประมาณ 2 งาน 12 ตารางวา โดยมีความลึกในส่วนที่ลึกที่สุดของบ่อขุดดินลึกประมาณ 4.00 เมตร ซึ่งการกระทำดังกล่าวจึงเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายตามมาตรา 17 ตามพระราชบัญญัติขุดดินและถมดินฯ การที่บุคคลทั้งสองร่วมกันขุดดินและชักลากดิน หรือหินออกจากบริเวณบ่อขุดดินดังกล่าว โดยกระทำการในเชิงการค้าหรือแสวงหาผลประโยชน์เพื่อกำไร พิจารณาการกระทำของบุคคลทั้งสองดังกล่าวแล้วเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรงงานฯ ตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.นี้
“โรงงาน” หมายความว่า อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมตั้งแต่ ห้าแรงม้าหรือกำลังเทียบเท่าตั้งแต่ห้าแรงม้าขึ้นไป หรือใช้คนงานตั้งแต่เจ็ดคนขึ้นไปโดยใช้เครื่องจักร หรือไม่ก็ตาม สำหรับทำ ผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อม ซ่อมบำรุงทดสอบ ปรับปรุง แปรสภาพ ลำเลียง เก็บรักษา หรือ ทำลายสิ่งใด ๆ ทั้งนี้ ตามประเภทหรือชนิดของโรงงานที่กำหนดในกฎกระทรวง
“ตั้งโรงงาน” หมายความว่า การก่อสร้างอาคารเพื่อติดตั้งเครื่องจักรสำหรับประกอบกิจการ โรงงาน หรือนำเครื่องจักรสำหรับประกอบกิจการโรงงานมาติดตั้งในอาคารสถานที่ หรือยานพาหนะที่จะ ประกอบกิจการ
“ประกอบกิจการโรงงาน” หมายความว่า การทำ ผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อมซ่อมบำรุง ทดสอบ ปรับปรุง แปรสภาพ ลำเลียง เก็บรักษา หรือทำลายสิ่งใด ๆ ตามลักษณะกิจการของโรงงานแต่ไม่รวม ถึงการทดลองเดินเครื่องจักร ผู้ใดประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 ต้องได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต ตามวรรค 2 ห้ามมิให้ผู้ใดตั้งโรงงานก่อนได้รับอนุญาต ต้องได้รับอนุญาตตั้งและประกอบกิจการโรงงาน จำพวกที่ 3 ตาม พ.ร.บ.โรงงานฯ ในการประกอบกิจการ ขุดหรือลอก กรวด ทราบ หิน หรือดิน เป็นการประกอบกิจการโรงงาน จำพวกที่ 3 ตามบัญชีท้ายกฎกระทรวง พ.ศ.2535 ออกตามความใน พ.ร.บ.โรงงานฯ พ.ศ. 2562 ประเภทหรือชนิดของโรงงานลำดับที่ 3 (2) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 1 พ.ศ.2545 ตามมาตรา 12 ประกอบมาตรา 50 แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2562
คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาจากพฤติการณ์ที่ “นายยุทธฯ” ได้ดำเนินการขุดดินโดยใช้รถแบคโฮลคันของกลางเป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ในการขุดตักดิน รถแบคโฮลจึงเป็นเครื่องมือในการประกอบกิจการ และการที่ “นายศักดิ์ฯ” นำรถยนต์บรรทุกคันของกลางมาบรรทุกหินหรือดินออกจากบ่อขุดดินแล้วชักลากออกไปส่งให้กับลูกค้าโดยได้รับค่าตอบแทน การกระทำของผู้ต้องหาทั้งสองนั้นเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ เพื่อประโยชน์ทางการค้าและแสวงหากำไร อันเป็นการประกอบการเป็นธุรกิจเพื่อการค้าเชิงพานิชย์ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นโรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับ หิน กรวด ทราย หรือดิน หรือหลายอย่าง ประเภทโรงงานจำพวกที่ 3 ประเภทโรงงานหลักลำดับที่3(2) การขุดหรือลอก กรวด ทราย หิน หรือดิน ตามกฎกระทรวงออกตาม พ.ร.บ.โรงงานฯ การกระทำดังกล่าวต้องดำเนินการขออนุญาตและได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมเสียก่อนจึงดำเนินการได้ เห็นว่าการกระทำของ “นายยุทธฯ” และ “นายศักดิ์ฯ” ข้างต้นเป็นความผิดตามกฎหมาย และแจ้งว่าต้องถูกจับกุมตัวและต้องถูกควบคุมตัวนำส่ง ร.ต.ท.โชติชญาน์ อุตตะมะพงส.สภ.เวียงสา ด้วยแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิด ฐาน ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2562 ฐาน
– ร่วมกันตั้งโรงงานจำพวกที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
– ร่วมกันประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่พระราชบัญญัติขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 ฐาน
– ร่วมกันทำการขุดดินโดยมีความลึกจากระดับพื้นดินเกินสามเมตรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ฐาน
– ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น และในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การ “รับสารภาพ” ตลอดข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น จ.น่าน
Discussion about this post