เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 16 มกราคม 2568 นายสุเทพ สร้อยปา อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลแม่ป้าก อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นิวัต ทัศนเกษม ผกก.สภ.วังชิ้น ภจว.แพร่ เพื่อหารือช่องทางการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกรณีมีผู้นำข้อมูลเท็จร้องเรียนตนเองจนพ้นจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน และได้แจ้งความต่อ พ.ต.ท.กฤตเมธ ทาคำ พนักงานสอบสวนเวรประจำวัน ร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนางสาวราตรี จำปาแก้ว อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 208 หมู่ 4 ตำบลแม่ปาก อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ในฐานความผิด แจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ต่อเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 มีความผิดฐานแจ้งความให้พนักงานผู้กระทำตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จ ลงในเอกสารซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานที่น่าจะเกิดความเสียหายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 267 และยังมีความผิดนำลายมือชื่อที่เจ้าของไม่ได้ลงไว้ไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด อันเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264 วรรค 2 ถึงได้แจ้งความดำเนินคดี เหตุเกิดที่บ้านแม่ป้าก หมู่ 4 ตำบลแม่ปาก อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ต่อเนื่องกับที่ว่าการอำเภอวังชิ้น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ถึงเดือนมีนาคม 2567 ทางพนักงานสอบสวนรับเป็นคดีอาญาที่ 14/2568
หลังจากนั้น นายสุเทพ สร้อยปา ได้เข้าพบนายหฤฑีฐ์ ศรีเอียด นายอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ซึ่งได้เดินทางมารับตำแหน่งเมื่อ 3 วันที่ผ่านมาฯ เพื่อสอบถามผลการส่งเอกสารอุทธรณ์ ข้อกล่าวหา ซึ่งนายอำเภอฯ รับเรื่องและจะทำการติดตามเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
นายหฤฑีฐ์ ศรีเอียด นายอำเภอวังชิ้นฯ กล่าวว่า กรณีที่มีประชาชนเข้าชื่อกันเกินกว่ากึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในหมู่บ้านเพื่อขับไล่ผู้ใหญ่บ้าน เมื่ออำเภอได้รับเอกสารการเข้าชื่อก็ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากผู้ถูกเข้าชื่อเกินกว่ากึ่งหนึ่งของหมู่บ้านผู้ใหญ่บ้านผู้นั้นจะพ้นจากตำแหน่งทันทีและต้องมีการเลือกตั้งคนใหม่เข้ามา
อย่างไรก็ตามทาง นายสุเทพ สร้อยปา สามารถอุทธรณ์และนำหลักฐานคัดค้านการเสนอชื่อปลดออกจากตำแหน่งได้ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดซึ่งทางกรมการปกครองจะได้ทำการส่งไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อตรวจสอบต่อไป โดยในวันดังกล่าวนายสุเทพเคยอุทธรณ์ไว้แล้วเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา และวันนี้ได้นำหลักฐานมาเพิ่มเติมซึ่งทางอำเภอจะรวบรวมส่งไปอย่างผู้บังคับบัญชาต่อไปอย่างไรก็ตาม ถ้าพบว่าการเสนอชื่อถอดถอนผู้ใหญ่บ้านเป็นเท็จก็คงต้องใช้วิธีการเยียวยาต่อไป
นายสุเทพ สร้อยปา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การล่ารายชื่อชาวบ้านเพื่อปลดตนออกจากตำแหน่งจำนวน 300 กว่าคน พบว่าในจำนวนนี้มิได้มีเจตนาและได้ให้ปากคำพร้อมทั้งทำหนังสือเป็นหลักฐานจำนวน 60 คน ซึ่งถ้าทางอำเภอมีความเป็นธรรมมีการสอบสวนอย่างถูกต้องตามกระบวนการก็จะพบว่าเอกสารเข้าชื่อปลดตนเองเป็นเอกสารเท็จส่วนใหญ่ซึ่งไม่มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายอย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะขอต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมแม้ว่าตนยังมีอายุราชการที่จะทำหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านได้อีกถึง 3 ปีก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นการเข้าชื่อถอดถอนนายสุเทพฯ ออกจากผู้ใหญ่บ้านแม่ป้าก ที่ผ่านมานายสุเทพฯ เป็นผู้ใหญ่บ้านที่สามารถปราบปรามยาเสพติดจนได้รับความดีความชอบในระดับภาคเหนือและในช่วงนี้น่าจะมีผลมาจากการเมืองท้องถิ่น ที่ผู้ใหญ่บ้านไม่สนับสนุนนักการเมืองบางกลุ่มที่มีอำนาจในมือและไปสนับสนุนคนหน้าใหม่น่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทางอำเภอเร่งปลดออกจากตำแหน่งหรือไม่ซึ่งหลายฝ่ายได้ติดตามเฝ้ามองเรื่องนี้อยู่
ทางว่าที่ร้อยตรีภาคิน ชมภูพันธ์ รองประธานคณะกรรม
การธรรมาภิบาลจังหวัดแพร่ ได้มอบหมายให้ นายธีรพงษ์ธงออน ที่ปรึกษาคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดแพร่ ลงพื้นที่ติดตามเรื่องนี้และมารายงานในการประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดแพร่ในวันที่ 22 มกราคม 2568 ที่จะถึงนี้ด้วย
ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่ 061-59-5297
Discussion about this post