วันที่ 15 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านสวนสมุนไพรพื้นบ้าน บ้านออด หมู่ที่ 11 ตำบลบัวเชด อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นสวนสมุนไพรของ นายทอน ไหมทอง อายุ 78 ปี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หมอทอน ซึ่งเป็นหมอสมุนไพรพื้นบ้าน ที่มีความรู้ด้านสมุนไพรไทยเป็นอย่างดี โดยแบ่งพื้นที่ข้างบ้านปลูกสมุนไพร นาๆชนิด อาทิเช่น ว่านกะบาลขะโม้จ (ภาษาเขมร) แปลเป็นไทยว่า ว่านหัวผี ว่านขมิ้นครุฑ ว่านกำแพงเจ็ดชั้น ว่านม้าขาว เถาวัลย์สามส่วน ว่านพญาเทาเอว ว่านหุนไห้ ว่านขันทองพยาบาท ว่านหนุมาน ต้นแจง เป็นต้น
นายทอน ไหมทอง กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า สมัยเป็นหนุ่มๆได้ติดตามคุณพ่อเข้าป่าหาสมุนไพรแถบเทือกเขาพนมดงรักษ์ บางทีก็ข้ามไปหาสมุนไพรถึงประเทศกัมพูชา ด้วยความที่ว่าที่บ้านมีอาชีพเกษตรกรรม ทำไร่ ทำนา จึงไม่ค่อยได้ศึกษาวิชาความรู้เรื่องสมุนไพรจากคุณพ่ออย่างจริงจังสักเท่าไร แต่ก็ได้ช่วยคุณพ่อปลูกว่าน ปลูกสมุนไพรตลอดมา พออายุมากขึ้นคุณพ่อบังคับให้เริ่มศึกษาเรื่องสมุนไพรอย่างจริงจัง ซึ่งตนก็เห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและคนอื่นๆ จึงได้เริ่มศึกษาเล่าเรียน เรียนรู้ถึงการปลูกว่าน ปลูกสมุนไพร การเก็บรักษา การปรุงยาสมุนไพร และการใช้สมุนไพรรักษาคน ซึ่งสมัยก่อนนั้นชาวบ้านยังนิยมใช้สมุนไพรรักษาเวลาเจ็บป่วย ตนใช้วิชาความรู้เรื่องว่านยาสมุนไพรช่วยรักษาคนมาตลอด จนมีการประกาศให้ไปขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฏหมาย ตนจึงได้ไปขอขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาตและการรับรองให้เป็น “หมอพื้นบ้าน” จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ตั้งแต่ปี 2561 ที่ผ่านมานั้นตนได้ออกหาสมุนไพรชนิดต่างๆมาเก็บรักษาไว้ และบางชนิดก็นำมาขยายพันธุ์ เพราะนับวันสมุนไพรพื้นบ้านจะหาได้ยาก บางส่วนก็กลายพันธุ์ เช่น ไพรดำ ถ้าเป็นไพรดำจริงๆ จะเป็นสีดำเข้ม แต่ทุกวันนี้เริ่มกลายพันธุ์จะเป็นสีม่วงหรือสีดำจางๆ หรือว่านสบู่เลือด ถ้าเป็นว่านของแท้ เมื่อเอามีดผ่าดูจะมีน้ำว่านไหลออกมาเป็นสีเลือดเหมือนกับเลือดคน แต่ปัจจุบันนี้จะกลายเป็นสีแดงจางๆจืดๆ จึงเป็นสาเหตุที่ตนกับภรรยาขี้มอเตอร์ไซค์ซาเล้งออกไปหาสมุนไพรตามพื้นที่ป่าต่างๆแถวชายแดนไทย-กัมพูชา และตามป่าชุมชนที่ยังพอมีอยู่ทั้งพื้นที่อำเภอสังขะ อำเภอศรีณรงค์ อำเภอศีขรภูมิ อำเภอกาบเชิง และอำเภอพนมดงรัก
นายทอน กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันตนได้นำสมุนไพรชนิดต่างๆ มาทำการเเปรรูป อาทิเช่น น้ำมันนวดว่านสมุนไพร ซึ่งมีส่วนผสม ดังนี้ ว่านกงจักรพระพรรดิ์ ว่านมหาปราบ ว่านไพลปลุกเสก ว่านไพลชมพู เป็นต้น ซึ่งมีสรรพคุณ เเก้เคล็ดขัดยอก เเก้ปวดหลัง ปวดเส้น ปวดเอ็น เเก้ฟกช้ำดำเขียว อีกชนิดหนึ่งก็คือ ยาหม่องว่านสมุนไพร โดยมีส่วนผสม ดังนี้ ว่านกงจักรพระอินทร์ ว่านมหาปราบ ว่านไพลปลุกเสก หว่านไพลชมพู เเละสมุนไพรชนิดต่างๆ มีสรรพคุณ แก้เเมลงสัตว์กัดต้อย เเก้เคล็ดขัดยอก แก้ฟกช้ำ ส่วนด้านยาต้มนั้น ตนได้จัดเป็นชุดๆไว้ สำหรับเเก้ปวดเส้น เอ็น บำรุงเลือด ชามือชาเท้า ส่วนประกอบของยา คือ เถาวัลย์เอ็นอ่อน กำเเพงเจ็ดชั้น เถาวัลย์สามส่วน เถาวัลเปรียง หุนไห้ ต้นแจง เป็นต้น ปัจจุบันนี้ตนได้เปิดสวนที่ปลูกสมุนไพรเอาไว้ เพื่อให้คนที่สนใจเรื่องสมุนไพรเข้ามาศึกษาเรียนรู้ ใครอยากรู้อะไรตนยินดีสอนให้ เพราะแก่แล้ว จึงอยากจะถ่ายทอดวิชาความรู้เรื่องสมุนไพรพื้นบ้านให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนเผื่อจะเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นใหม่ต่อไป หากท่านใดสนใจผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรเเปรรูปหรือสนใจเรียนรู้ศึกษาดูงาน อยากเรียนรู้การปลูกพืชสมุนไพร ติดต่อได้ที่ นายทอน ไหมทอง บ้านออด หมู่ที่ 11 ตำบลบัวเชด อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ เบอร์โทรศัพท์ 080-728-9334
ปุรุศักดิ์ แสนกล้า ข่าว/ภาพ
Discussion about this post