รวบผีน้อยเกาหลี 4 ราย ถือวีซ่าท่องเที่ยวแอบตัดผมฉ่ำ
พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นความรับผิดชอบหลักของ สตม. โดยสั่งการและกำชับให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบบังคับใช้กฎหมาย โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ที่รับผิดชอบงานสืบสวนเน้นลงพื้นที่ X-RAY ตรวจสอบ ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น บก.ตม.1 โดย พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รอง ผบก.ตม.1 ที่รับผิดชอบงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้รับการประสานงานจาก สน.คลองตัน โดย พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน เกี่ยวกับเบาะแสของร้านทำผมชื่อดังแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท(ตอนกลาง) จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน พร้อมชุดปฏิบัติการนำโดย พ.ต.ท.ทวีทรัพย์ ชัยภูมิ พ.ต.ท.ธงไทย ไพเราะ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 ร่วมกับ พ.ต.ท.ธนากร งามเย็น รอง ผกก.ป. สน.คลองตัน นำกำลังกว่าสิบนายลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา
สำหรับพฤติการณ์ในการจับกุม เจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงบริเวณสถานประกอบการตามที่ได้รับเบาะแส ในเวลาประมาณ 15.30 น. เมื่อขึ้นไปบนชั้น 2 จะมีห้องสำหรับทำผมและเมื่อเปิดประตูเข้าไป เจ้าหน้าที่ตำรวจพบทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติ กำลังรับบริการตัดแต่งและจัดทรงผม เป็นจำนวนมาก ซึ่งลูกค้าบางส่วนยังเข้าคิวรอรับบริการอยู่ โดยมีช่างตัดแต่งทรงผม ทั้งที่เป็นชาวไทยและที่มีลักษณะรูปพรรณคล้ายชาวต่างชาติ(เอเชียตะวันออก)อีกหลายคน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ และเจ้าพนักงานตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ฯ พร้อมขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวและใบอนุญาตทำงาน ของช่างทำผมที่กำลังทำหน้าที่อยู่ทั้งหมดและผลจากการตรวจสอบพบว่า ช่างทำผมมีสัญชาติเกาหลี 4 คน เป็นชาย 2 และหญิง 2 ดังนามสมมติคือ MR.LEE สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 25 ปี MR.KIM สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 30 ปี MS.JIYOEN สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 25 ปีและ MS.JI HYE สัญชาติเกาหลีใต้ อายุ 24 ปี นอกจากนี้ยังพบหญิงสัญชาติเมียนมา 1 คน คือ MS.THIN THIN MAR สัญชาติเมียนมา อายุ 33 ปี โดยชาวเกาหลีใต้ทั้ง 4 รายเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ด้วยการผ่อนผันการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว 90 วันซึ่งจะไม่สามารถทำงานได้ ส่วนชาวเมียนมาร์อีก 1 รายนั้นมีใบอนุญาตทำงานแต่ขณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกำลังทำผมให้กับลูกค้าซึ่งอาชีพการทำผม ตัดผม เสริมสวย เป็นหนึ่งในงานต้องห้ามทำโดยเด็ดขาด ตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง กำหนดงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำ เช่นเดียวกับ งานเร่ขายสินค้าและงานนวดไทย เป็นต้น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาผู้ต้องหาชาวเกาหลีใต้ทั้งหมดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” และแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาชาวเมียนมาร์ ในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ทำงาน ทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่จะกระทำได้ ควบคุมตัวส่ง พงส.สน.คลองตัน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถาม พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า การประกอบอาชีพสงวนที่ต้องห้ามเด็ดขาดตามกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว หากถูกจับกุม นอกจากจะมีโทษปรับตามกฎหมายคือตั้งแต่ 5,000-50,000 บาทแล้วจะมีผลไปถึงการถูกบันทึกรายชื่อเป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองและผลักดันออกไปนอกราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังขอฝากประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน ผ่านผู้สื่อข่าวว่า สตม.เป็นองค์กรบังคับใช้กฎหมาย ที่มาตรฐานสากล ในการตรวจสอบ กวดขันและปราบปรามคนต่างด้าวที่เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืนกฎหมายและทำความผิดอื่นๆ ทั้งนี้หากท่านใดพบเห็นเบาะแส การกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารพระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120 หรือ ติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือโทรหมายเลข 1178
สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม / รายงาน