เบตง ตำรวจมาเลเซียประสานเจ้าหน้าที่ทางการไทย สกัดจับแก๊งโจรกรรมรถส่งขายข้ามชาติ คาดประเทศไทยเป็นเพียงทางผ่าน
วันที่ 8 ม.ค.68 ที่สำนักงานด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง ถ.สุขยางค์ ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา พ.ต.ท.สิทธิพงศ์ สมพันธ์ สว.ด่าน ตม.เบตง พร้อมด้วย พ.ต.ต.กรกช ภักดีเลขะกุล สว.กก.สส.1 บก.สส.จชต. เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเบตง และ ฝ่ายปกครองอส.ชุดประสานงานชายแดน ได้ส่งมอบตัว นายริม เชง ฮง อายุ 34 ปี ชาวมาเลเซีย นายชวย ซิวไฟ อายุ 43 ปี ชาวมาเลเซีย นายนูวีฮันดานี บิน อับดุลฮามิด อายุ 29 ปี ชาวมาเลเซีย พร้อม รถยนต์กระบะโตโยต้าไฮลักซ์ รีโว่ 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน NEB 8365 มาเลเซีย ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนสอบสวน ประเทศมาเลเซีย และเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลประเทศมาเลเซีย หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา อส.ชุดประสานงานชายแดน ได้รับการประสานจาก ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ประเทศมาเลเซีย ให้สกัดรถคันดังกล่าวซึ่งกำลังข้ามแดนมายังอำเภอเบตง เนื่องจากคาดว่ารถคันดังกล่าวจะถูกนำไปขายยังประเทศที่สาม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเบตง และอส.ชุดประสานงานชายแดน พบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ ที่ด่านพรมแดนเบตง จึงทำการตรวจสอบ พบนายริม เชง ฮง เป็นคนขับ และมีเพื่อนอีก 2 คน นั่งมาด้วย ซึ่งช่วงเวลาที่พบเป็นช่วงที่ประตูด่านพรมแดนเบตงกำลังปิด จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ มาเลเซีย ไม่สามารถติดตามเข้ามาได้ และจากการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ก็พบว่าเอกสารรถถูกต้อง และได้ประทับตราหนังสือเดินทางเข้าเมืองมาถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ฝั่งไทย จึงไม่สามารถควบคุมตัวได้ จึงปล่อยให้ทั้งสามเดินทางเข้ามาพักในเขตเทศบาลเมืองเบตง แต่ก็ให้เจ้าหน้าที่ทำการเฝ้าติดตาม ตลอด จนกระทั่ง วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซีย เดินทางเข้ามาประสานและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทางการไทย ทราบว่า ได้มีการปลอมแปลงเอกสาร ใบมอบอำนาจในการนำรถเข้ามาในประไทย เจ้าของรถได้ทำการแจ้งความกับตำรวจมาเลเซียไว้ตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำวานนี้ หลังจากตรวจพบตำแหน่ง จีพีเอส ของรถคันดังกล่าวอยู่ใกล้พรมแดนไทย เจ้าหน้าที่จึงได้ไปนำตัวทั้งสามคน ที่พักในโรงแรมใจกลางเมืองเบตง ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศมาเลเซีย เพื่อนำกลับไปดำเนินคดี
ด้านตำรวจของประเทศมาเลเซีย ได้ให้ข้อมูลว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าว เป็นแก๊งโจรกรรมรถข้ามชาติ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทางการมาเลเซียได้ติดตามดูพฤติกรรมมาระยะหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะนายริม เชง ฮง ได้เคยนำรถยนต์ข้ามเข้ามาประเทศไทยหลายครั้งแล้ว ทั้งผ่านทางด่านพรมแดนเบตงและด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา แต่เวลาเดินทางกลับประเทศมาเลเซีย จะนั่งเครื่องบินกลับ โดยจะไม่นำรถกลับไปด้วย รถที่นำเข้ามาคาดว่าจะนำไปขายในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา หรือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยที่ประเทศไทยเป็นเพียงแค่ทางผ่าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซีย ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการสอบถามทั้งสาม ยังให้การวกวน โดยอ้างว่า รถยืมญาติมา เดินทางเข้ามาประเทศไทย 2 ครั้ง ครั้งก่อนๆ อาศัยรถเพื่อนเข้ามา ซึ่งไม่ตรงกับข้อมูลที่ทางการมาเลเซียตรวจสอบมา จากนี้หลังจากที่นำตัวกลับไปยังประเทศมาเลเซีย ก็จะทำการสอบสวนอย่างละเอียด และทำการติดตามขยายผลทลายเครือข่ายแก๊งโจรกรรมรถข้ามชาติแก๊งนี้ต่อไป
โยธิน ประชามติรัฐ/ข่าว
อับดุลมานะ ดอฆอ/ภาพ
อ.เบตง จ.ยะลา รายงาน
Discussion about this post