เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 30 ธันวาคม 2567 ร.ต.อ.เปล่ง พานแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ ชนท้าย รถซาเล้ง คนขับและรถจักรยานยนต์กระเด็นไปกลางถนนก่อนรถบรรทุกขับตามหลังมามองไม่เห็นทับซ้ำอาการสาหัส และมีผู้บาดเจ็บ เหตุเกิดบน ถนนสายเอเชีย ขาออก มุ่งหน้าไปจังหวัดอ่างทอง ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 24 ก่อนข้ามสะพานรถไฟบ้านม้า ในพื้นที่ ตำบลหันตา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงรุดตรวจสอบพร้อมประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาและกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุกลางถนน พบผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นชาย สวมใส่ เสื้อแขนยาว สีดำ กางเกงขาสั้น สีดำ อาการสาหัส ที่ศีรษะและตามร่างกายบาดแผลฉกรรจ์หและกระดูกหักหลายแห่ง เจ้าหน้าที่ทำการ ซีพีอา แต่ไม่เป็นผลผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อภายหลัง ชื่อ นาย ภาณุภัทร ไทรเมือง อายุ 19 ปี ชาวตำบลบ้านชุ้ง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใกล้กันยังพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สภาพใหม่เอี่ยม สีดำคาดเขียว ไม่ติดแผ่นป้านทะเบียน เลขไมล์เพียง 112 กิโลเมตร
ก่อนถึงจุดที่พบร่างผู้เสียชีวิต พบรถซาเล้ง สีแดง ล้มคว่ำตะแคงข้างกับราวสะพาน มีนาย บุญส่ง พันธ์วิเชียร อายุ 52 ปี ( สวมหมวก ) ชาวอำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ ได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกตามร่างกาย เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้น เล่าว่า ตนเองมีอาชีพทำงานก่อสร้างในจังหวัดชลบุรี ช่วงหยุดปีใหม่กำลังขับรถซาเล้งคันดังกล่าวเพื่อจะกลับบ้านที่พยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ พอมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงกำลังข้ามสะพาน ได้ยินแค่เสียงว่าจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาเร็ว มารู้อีกทีก็ถึงตัวชนดังปึ้ง และกระเด็นไปกลางถนน จังหวะนั้นรถบรรทุก 6 ล้อ คล้ายรถบรรทุกผักขับมาพอดีก็เหยียบซ้ำ ซึ่งก็ขับเลยไปจอดจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร
ขณะนั้น นาย ภัทรพล ไทรเมือง อายุ 28 ปี ( เสื้อแขนยาวสีน้ำตาล )พี่ชายผู้เสียชีวิตเดินทางมาดูร่างน้องชาย ยังอยู่ในการช็อค เล่าว่าน้องชายทำงานเป็น รปภ.โรงงาน แห่งหนึ่งริมถนนสายเอเซีย คาดว่ากำลังจะกลับบ้าน แต่ก็มาสบอุบัติเหตุเสียก่อน ส่วนรถจักรยานยนต์ พึ่งออกมาได้วันเดียว ออกมาเมื่อวาน ซึ่งปกติน้องชายก็ขับอยู่ประจำแต่ก็ไม่ได้แข็งมาก ไม่คิดว่าจะมาเปิดเหตุการณ์แบบนี้
ห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตร พบรถบรรทุก 6 ล้อ หมายเลขทะเบียน 70 – 1536 แพร่ มีนาย พงษ์ดนัย ทรายอินทร์ อายุ 34 ปี ( เสื้อเชิ้ตสีฟ้า ) เป็นคนขับเล่าว่าจังหวะนั้นกำลังขับขึ้นสะพานมาเบรกไม่ทันตอนแรกคิดว่ารถขับย้อนศร ซึ่งช่วงนั้นมึดพอขับมาก็ไม่เห็น คาดว่าเขาประสบอุบัติเหตุก่อนหน้าเป็นจังหวะตนขับมาไม่เห็นจึงเบรคไม่ทัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญตัวคนขับรถทั้งหมดไปทำการสอบถามเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุอุบัติเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมตรวจสอบกล้องหน้ารถ ซึ่งจับภาพได้ขณะที่ขับขึ้นสะพานพบแสงไฟของรถซาเล้ง คว่ำอยู่ช่องจราจรซ้ายสุด พ้นมาได้เล็กน้อยก็เห็นแสงไฟของรถจักรยานยนต์และคนขับรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำอยู่กลางถนนแต่เบรคไม่ทันพุ่งชนเข้าอย่างจัง อย่างไรก็ตามจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครมูลนิธิพุทไธสวรรย์ ส่งชันสูตรเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ก่อนมอบให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป
Discussion about this post