ยายวัย 64 ปี เกือบซวย หนุ่มหลอนยาควงมีดบุกจี้คอ คาห้องนอน ตกใจร้องตระโกนเสียงหลงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านรอดตายหวุดหวิด

จากกรณี เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา นางสาวกัญญาพัชร พูลขำ อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 339 หมู่ที่ 1 บ้านพระบาทนาหงส์ ต.พระบาทนาสิงห์ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ได้เดินทางเข้าพบผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม ให้การช่วยเหลือกรณี นางใหม่ พูลขำ อายุ 64 ปี แม่ของตน ถูกนายเตชน์คนหมู่บ้านเดียวกันบุกเข้าไปในบ้านในมือถือมีด เข้าไปทำร้ายแม่ในห้องนอน ตอนนี้ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.รัตนนวาปี แต่มีผู้ใหญ่ในหมู่บ้านบางคนอยากให้ไกล่เกลี่ยและถอนแจ้งความ ตนกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงมาขอพึ่งผู้สื่อข่าว อีกทาง

ต่อมาเวลาประมาณ 20.30 น. (23 ก.ย.67) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 339 หมู่ที่ 1 บ้านพระบาทนาหงส์ ต.พระบาทนาสิงห์ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ได้พบกับนางใหม่ พูลขำ อายุ 64 ปี นางใหม่ฯ เล่าว่า เวลาประมาณ 19.20 น. (22 ก.ย.67) มีคนขับรถ จยย. มาจอดที่หน้าบ้านแล้วเดินเข้ามาในบ้าน ตนจึงตะโกนถามไปว่า “ใครเข้ามาหาใคร เด็กน้อยไม่อยู่บ้านจ้า มีแต่ยายอยู่คนเดียว” จากนั้นผู้ก่อเหตุก็เดินเข้าไปในห้องนอนของตนซึ่งขนะนั้นตนนอนอยู่ในห้องนอนแต่ยังไม่หลับ เมื่อผู้ก่อเหตุเข้าไปในห้องนอนไม่ได้พูดจาอะไร ได้ใช้มือข้างหนึ่งกำผมหน้าผาก และมืออีกข้างถือมีดทำครัวจ่อที่ลำคอจะทำร้ายตน ตนเห็นหน้าผู้ก่อเหตุ คือนายเตชน์ เป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน หลังจากใช้มีดจ่อที่ลำคอตน นายเหนือ ได้พูดสั้นๆว่า “มึงจังได๋ มึงเป็นหยัง” ตนตกใจกลัวจึงใช้แรงสะบัดออก พร้อมกับได้ร้องตะโกนว่า “บักเหนือ กูไม่ได้ทำอะไรกับมึง มึงอย่ามาทำกู มึงอย่ามาฆ่ากู บักเหนือ” เพื่อนบ้านได้ยินเสียงจึงรีบเข้ามาดู นายเหนือผู้ก่อเหตุจึงรีบออกบ้านและขับรถ จยย.หนีไป แต่ช่วงชุลมุน นาต่อสู้กันจนด้ามมีดหักตกอยู่ที่พื้น ก่อนที่ นายเหนือ จะออกจากบ้าน ยังได้เตะตนไปหลายครั้งทำให้ขาจนเกิดมีรอยช้ำและนิ้วมือเจ็บ พอตั้งสติได้จึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.รัตนวาปี จากนั้นตำรวจจึงส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลรัตนวาปี ต่อมาช่วงเย็นของวันที่ (23 ก.ย.67) แม่ของ นายเหนือ ผู้ก่อเหตุก็ได้มาพูดคุยกับตนที่บ้าน แจ้งเพียงสั้นๆว่าจะไม่รับผิดชอบอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดชึ้น ส่วนคดีมีผู้ใหญ่ในหมู่บ้านบางคนขอให้พูดคุยตกลงกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน หากตกลงกันได้ก็ให้ตนไปถอนแจ้งความ ตนกลัวและไม่มั่นใจในความปลอดภัย ไม่รู้ว่าหลังจากนี้นายเหนือจะเข้ามาทำร้ายตนเองอีกหรือไม่

สำหรับนายเตชน์ แม่เคยมาร้องผู้สื่อข่าวครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา แจ้งว่าลูกชายมีอาการติดยาอย่างหนัก เคยเอาไปบำบัดรักษาหลายครั้ง พออาการดีขึ้นก็กลับมาเสพยาเสพติดเหมือนเดิม ตนเชื่อว่าคนขายยาก็อยู่ในละแวกเดียวกัน นายเหนือยังเคยติดค้างยาเสพติดเขาถึง 700 บาท และมีการทวงถามให้ใช้หนี้ค่ายาเสพติดเรื่อยมา ส่วนคนขายยาและสถานที่ขายยาชาวบ้านรู้กันหมดแต่แปลกใจที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่รู้ไม่แก้ไขไม่จับกุม
เวลาประมาณ 08.00 น.(24 ก.ย.57) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปบ้านผู้ก่อเหตุ ได้พบกับพ่อและแม่ของผู้ก่อเหตุ ทั้งพ่อและแม่ของผู้ก่อเหตุ แจ้งว่า จะไม่ไปพูดคุยไกล่เกลี่ยกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน จะทำอะไรก็ทำให้ตำรวจมาเอาไปเลย ได้บอกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไปแล้ว บอกให้ไปแจ้งตำรวจและจับลูกชายไปเลย ตอนนี้ลูกชายก็ไม่ได้มานอนที่บ้านก็ไปนอนมั่วสุมเสพยากันกับพวกนั้น พวกยาบ้า มันนอนอยู่บ้านคนที่ขายยา ก็พวกนี้แหละให้มันเสพยา ขายยาให้มันมันก็นอนอยู่นั่น แถวนั้นขายยากันทั้งหมด จะทำยังไงก็ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว พ่อกับแม่ก็อยากให้ลูกเป็นคนดี:ฤาษีลภ-โภควินทร์ จว.หนองคาย