วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม 2567 เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประทานพระวโรกาสให้พระราชาคณะที่ได้รับพระราชทานสถาปนา เลื่อน และตั้งสมณศักดิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2567 เฝ้าถวายสักการะ และรับประทานพระโอวาท ตามธรรมเนียมคณะสงฆ์ โอกาสนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาทความตอนหนึ่งว่า
“วิสัยปุถุชน เมื่อประสบโลกธรรมฝ่ายอิฏฐารมณ์ กล่าวคือ มีลาภ มียศ สรรเสริญ และสุข ย่อมมีจิตใจฟูฟ่องไปด้วยความชื่นชมยินดี และในทางตรงกันข้าม ถ้าถึงคราวเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา และทุกข์ ก็ย่อมห่อเหี่ยวหดหู่ เป็นของธรรมดา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงพระมหากรุณาตักเตือนพุทธบริษัททั้งหลายให้เข้าใจธรรมดาของโลกธรรมทั้ง 8 ประการนี้ แล้วรู้จักฝึกฝนอบรมตนให้สงบ นิ่ง เยือกเย็น ไม่หวั่นไหว ไม่แสดงอาการขึ้น ๆ ลง ๆ โดยฟุ้งซ่านไปตามกระแสโลกธรรม
อันว่าคนฉลาดที่เรียกว่านักปราชญ์นั้น ย่อมรู้จักรักษากิริยา วาจา และจิตใจตน มิให้แปรปรวนรวนเรไปตามสมมุติจนเสียงาม ถ้าเป็นพระ ก็ไม่ให้วิบัติไปจากสมณสารูป ถ้าเป็นฆราวาส ก็ไม่ละทิ้งสมบัติของผู้ดี ถ้าท่านหมั่นอบรมตนให้เป็นผู้ไม่หวั่นไหวต่อโลกธรรมได้อย่างสม่ำเสมอ ท่านย่อมประสบแต่ความเจริญงอกงาม ไม่มีวันเสื่อมทรามลง สมดังที่สมเด็จพระบรมศาสดาทรงรับรองไว้ในมงคลสูตรอย่างแน่แท้
ท่านเจ้าคุณทุกรูป ได้ชื่อว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ด้วยกันแล้วทุกรูป ขอท่านจงรักษาความเป็นผู้ใหญ่นั้นไว้ เพื่อให้ผู้น้อย และมหาชนทั้งหลาย ชื่นชมกราบไหว้และประพฤติปฏิบัติตามจริยาของท่านได้อย่างสนิทใจ ด้วยการที่ท่านต้องดำรงตน เป็นแบบอย่างแห่งการประพฤติปฏิบัติ ตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ทั้งต้องหมั่นศึกษา ครองตน และบริหารงาน ตามกฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ และประกาศคณะสงฆ์อยู่ทุกเมื่อ”
การนี้ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ในฐานะประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เมตตารับสักการะจากพระราชวชิรศาสนวิเทศ (สำรวจ กมโล) เจ้าอาวาสวัดไทยนอร์เวย์ ประธานสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป ในโอกาสที่ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิฉัย ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ด้วย
Discussion about this post