วันที่ 17 เม.ย.67 ดร.กิตติ เป้าเยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา เชิญนายก อบต.8 ตำบลและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากประตูระบายน้ำแตก พร้อมเชิญตัวแทนจากรมชลประทาน ร่วมแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน เนื่องจากตอนนี้ปลาในคลองลอยตายเกลื่อน สถานีสูบน้ำประชาชุมชนไม่สามารถผลิตน้ำได้ ชาวบ้านหลายพันหลังคาเรือนได้รับผลกระทบ โดยวันพรุ่งนี้เตรียมสืบน้ำจากคลองลัดยายหรั่งออกลงสู่คลองประเวศบุรีรมย์ พร้อมประสานให้กรมชลปล่อยน้ำจืดลงมาช่วย โดยประสานแหล่งน้ำดิบจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ไหลมาตามคลองระพีพัฒน์ ลงแสนแสบ ก่อนมาถึงคลองพระองค์เจ้า คาดใช้เวลา 4 วันมวลน้ำจืดก้อนแรกจะมาถึง
สืบเนื่องเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 เวลา 21.30 น. ทำนบดินที่ใช้ในการก่อสร้างประตูระบายน้ำท่าถั่ว ใกล้ปากคลองประเวศบุรีรมย์ ม.3 ต.บางกรูด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ของกรมชลประทาน เกิดรอยรั่วและพังทลายลง ทำให้มวลน้ำในแม่น้ำบางปะกงซึ่งมีค่าความเค็มในช่วง 20.83 – 26.40 กรัม/ลิตร ไหลทะลักเข้าสู่คลองประเวศบุรีรมย์อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ฝายที่กักเก็บน้ำไว้บริเวณปากคลองลัดยายหรั่ง มีน้ำเค็มท่วมสูงและพังทลายลงในวันที่ 10 เมษายน 2567 ทำให้มวลน้ำเค็มจำนวนมากทะลักลงสู่คลองลัดยายหรั่ง ออกสู่คลองหนามแดง-บางพระ คลองพระองค์ไชยานุชิต กระจายตัวไปยังพื้นที่ตำบลบางกะไห ตำบลบางเตย ตำบลโสธร ตำบลบางพระ ตำบลเกาะไร่ ตำบลคลองเปรง และตำบลคลองประเวศ ชาวบ้านหลายพันหลังคาเรือนได้รับผลกระทบ สัตว์น้ำในคลองสาขาเริ่มลอยตาย น้ำเค็มทำให้ผักตบชวาในคลองต่างๆ เริ่มเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ทั้งปลาเน่าและกินเน่าของผักตบชวา หนำซ้ำสถานีสูบน้ำประปาหมู่บ้าน จำนวน 8 สถานีสูบน้ำ ไม่สามารถสูบน้ำเพื่อผลิตน้ำประปาให้ชาวบ้านได้ สร้างความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ น้ำเค็มที่ไหลทะลักลงคลองพระองค์ไชยานุชิต ที่เชื่อมต่อกับอำเภอบางบ่อ สมุทรปราการ ทำให้พื้นที่การเกษตร กว่า 3 แสนไร่ได้รับผลกระทบ ชาวบ้านจังหวัดสมุทรปราการได้รับผลกระทบจากมวลน้ำเค็มก้อนนี้
โดยวันนี้ ( 17 เมษายน 2567 ) ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา ดร.กิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้ลงพื้นที่เพื่อช่วยแก้ไขปัญหา เชิญนายก อบต. ทั้ง 8 ตำบล กำนันผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านและผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวแทนจากกรมชลประทาน ร่วมพูดคุยเจรจาหาทางออกในเรื่องนี้
โดยดร.กิตติ กล่าวว่า อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้เข้าแก้ไขปัญหาดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567 โดยนำพนักงานพร้อมเครื่องจักรกลเข้าดำเนินการซ่อมทำนบกันดิน เพื่อปิดกั้นน้ำเค็มที่จะทะลักเข้าสู่บริเวณคลองลัดยายหรั่งอย่างเร่งด่วนทันที และดำเนินการแล้วเสร็จในวันที่ 12 เมษายน 2567 แต่มวลน้ำเค็มที่ไหลทะลักในคลองเข้ามาแล้ว เกิดผลกระทบกับประชาชนเป็นวงกว้าง ในพื้นที่ดังกล่าว พบว่ามีค่าความเค็มอยู่ที่ 17.9 กรัม/ลิตรและมีพื้นที่ตำบลคลองเปรง น้ำเค็มได้เข้าคลองขวาง ที่ต่อกับคลองประเวศบุรีรมย์ เข้าสู่พื้นที่ตำบลคลองเปรง ตำบลหนามแดงบางส่วน โดยการดำเนินโดยเร่งด่วน ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ส่งรถน้ำเข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบใน 8 ตำบลที่ไม่มีน้ำประปาใช้ นอกจากนี้จะใช้น้ำหมักจุลินทรีย์ ใส่รถน้ำฉีดพ่น เพื่อแก้ปัญหาน้ำเน่าเสีย ตามแต่จุดที่มีการร้องขอ จะดำเนินการจัดทำแผนฟื้นฟูพัฒนาแหล่งน้ำ ผลักดันน้ำเค็มออกจากพื้นที่คลองหนามแดง-บางพระ โดยใช้น้ำจืดจากคลองนครเนื่องเขตเข้าทางวัดต้นตาล ผลักดันน้ำเค็มที่ยังคงนอนคลองให้มีความเจือจาง และเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด และจะทำอการสูบน้ำเค็มออกทางทดลัดยายหรั่ง กลับเข้าคลองประเวศบุรีรมย์ ในวันพรุ่งนี้ พร้อมประสานกรมชลประทานให้เร่งปล่อยน้ำจืด มาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นการเร่งด่วน
นายวรา กลัดเนียม หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต เปิดเผยว่า โครง การก่อสร้างประตุระบายน้ำท่าถั่วใหม่ ต้องใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 2 ปี ซึ่งขณะเกิดเหตุน้ำทะเลได้หนุนสูง กัดเซาะทำนบที่สร้างขึ้นมาพัง น้ำเค็มจำนวนมากจึงไหลลงคลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งผู้รับเหมาและกรมชลประทานได้นำถุงบิ๊กแบ็กและเหล็กชิปพายมาทำแนวเขื่อนใหม่ทั้ง หมด แต่ปริมาณน้ำเค็มที่ไหลทะลักออกสู่คลองประเวศบุรีรมย์มีจำนวนมาก ที่ผ่านมา เวลาน้ำลงจะเปิดบานประตูน้ำ เพื่อให้น้ำเค็มไหลกลับมา เวลาน้ำขึ้นก็จะใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สูบออก แต่ทางกรมชลไม่กล้าจะสูบน้ำจนแห้งขอดคลอง เนื่องจากกลัวปัญหาดินจะสไลด์อุ้มน้ำไม่อยู่จนตลิ่งของชาวบ้านพัง ซึ่งตอนนี้ได้ประสานขอแหล่งน้ำดิบขนาดใหญ่จากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี โดยจะปล่อยปริมาณน้ำความเร็ว 20 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที ให้ช่วยผันน้ำจืดลงมาช่วยแก้ไขปัญหา ณ ตรงจุดนี้ ซึ่งมวลน้ำจากเขื่อนป่าสักต้องผ่านมาทาง คลองบริเวณพระ ราม 6 ไหลสู่คลองระพีพัฒน์ ลงมาคลองแสนแสบ ก่อนผ่านบึงฝรั่งจนไหลมาถึงคลองพระองค์ไชยานุชิต จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยถึง 4 วัน โดยจะต้องใช้น้ำจืดมากถึง 34 ล้านลูกบาศ์กเมตร ในการผลักดันน้ำเค็มและเติมน้ำเข้าคลองให้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาประ มาณ 15 วันในการแก้ไขปัญหานี้.
เอนก – ดร.ธมลธร วันทิพพา / ฉะเชิงเทรา
Discussion about this post