เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ เดินทางมายังร้านอาหาร บ่อปลานิลสายน้ำไหล ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อเยี่ยมชมกิจกรรมส่งเสริมสินค้า “ปลานิลสายน้ำไหลเบตง” และ “ปลาพลวงชมพูฮาลาบาลา” สู่ GI ไทย โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมพบปะเกษตรกรผู้เลี้ยงปลา อ.เบตง เมนูปลานิลน้ำไหลเบตง ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว จังหวัดชายแดนใต้ “เที่ยวใต้ สุดใจ” โดยมีเชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟอาหารไทยที่โด่งดังอันดับต้นในยุคนี้ ได้รังสรรค์เมนูผัดพริกขิงสมุนไพร และ ปลานิลสายน้ำไหลนิ่งมะนาวส้มจี๊ด ให้กลายเป็นเมนูระดับ Master Chef อย่างพิถีพิถัน โดยให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลสายน้ำไหลในพื้นที่เบตง ได้เรียนรู้วิธีการทำ อิเคะจิเมะ ที่ถูกต้อง หรือการปลิดชีพปลาให้ทรมานน้อยที่สุดและคงความสดของเนื้อปลาตามแบบฉบับภูมิปัญญาของชาวญี่ปุ่น โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ชมกิจกรรม workshop อิเคะจิเมะ ปลานิลสายน้ำไหลในครั้งนี้
จากนั้นนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ชมการกิจกรรม workshop อิเคะจิเมะ (Ikeji me) ศิลปะการปลิดชีพปลาแห่งจากแดนอาทิตย์อุทัยปลานิลสายน้ำไหล โดยภายในงานมีการสาธิตการทำ อิเคะจิเมะ (Ikejime) ศิลปะการปลิดชีพปลาแห่งจากแดนอาทิตย์อุทัย จากนายณธกร ศรุตธนาเจริญ (เชฟนิว) และ นายธนิสร วศิโนภาส (เชฟอ๊อฟ) ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงปลานิลสายน้ำไหลอีกด้วย ให้นายกรัฐมน ตรี และคณะได้ชมอีกด้วย เพื่อทำเมนูซาชิมิปลานิลสายน้ำไหล
นายสันติชัย จงเกียรติขจร หรือ โกหงิ่ว เจ้าของร้านอาหาร บ่อปลานิลสายน้ำไหล เล่าว่า รู้สึกยินดีมาก ที่นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางมาชิมอาหารทางร้าน ทางร้านได้เตรียมอาหารเมนูซิกเนเจอร์ปลานิลสายน้ำไหล ของทางร้านไว้เสิร์ฟต้อนรับคณะนายกรัฐมนตรี ได้แก่ ขลุ่ยปลานิล , ซาชิมิปลานิลสายน้ำไหล , ปลานิลทอดน้ำปลา , ปลานิลสามรส , แกงส้มปลานิลและผัดผักน้ำน้ำมันหอย เป็นต้น โดยปลานิลที่นี่มีลักษณะพิเศษ เพราะเลี้ยงในสายน้ำไหลเย็นจากเทือกเขา ทำให้เนื้อปลามีไขมันแทรกเนื้อจึงนุ่ม ประ กอบกับปลาว่ายทวนสายน้ำทำให้เนื้อแน่น และสายน้ำที่ไหลผ่านตัวปลาทำให้ปลาไม่มีกลิ่นโคลน รสชาติหวาน สามารถนำมาทำเป็นซาซิมิได้ ส่วนที่มานั้น มีเชฟจากญี่ปุ่นมาเที่ยวและชิมเนื้อปลานิลของที่นี่ แนะนำให้ทำเป็นเมนูปลาดิบหรือซาซิมิ โดยใช้วิธี “อิเคะจิเมะ” (Ikeji me) คือ การทำปลาแบบญี่ปุ่น บ่มไว้ก่อน 1 คืน จึงอร่อยเป็นพิเศษ
สำหรับปลานิลสายน้ำไหล เป็นปลาเศรษฐกิจของอำเภอเบตง ที่สร้างชื่อเสียง สร้างรายได้และอาชีพให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งตลาดยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยราคาจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของปลา โดยปลาที่มีน้ำหนัก 1 กิโล จะขายกิโลละ 100 บาท ปลาน้ำหนัก 2 กิโล ขายกิโลละ 200 บาท เป็นตัวละ 400 บาท ปลาน้ำหนัก 3 กิโล ขายกิโลละ 300 บาท เป็นตัวละ 900 บาท ปลาน้ำหนัก 5 กิโล ขายกิโลละ 500 บาท เป็นตัวละ 2,500 บาท ปลาน้ำหนัก 6 กิโล ขายกิโลละ 600 บาท เป็นตัวละ 3,600 บาท
ขณะนี้กลุ่มผู้เลี้ยงปลานิลสายน้ำไหลในพื้นที่ร่วมกับจังหวัดยะลา เตรียมจะขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อยกระดับปลานิลสายน้ำไหลสู่การสร้างรายได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้ชุมชนอย่างยั่งยืน สามารถส่งออกต่างประเทศได้อย่างมีคุณภาพ และผลักดันปลานิลสายน้ำไหล เป็น Soft Power ของอำเภอเบตง และให้มีการส่งเสริมการเลี้ยงปลานิลเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด โดยเฉพาะที่อำเภอเบตงก็ยังไม่เพียงพอต่อการบริโภค หากทำ GI ได้อย่างมีคุณภาพ เราก็สามารถส่งออกไปต่างประเทศได้และยังสร้างชื่อให้กับประเทศ ไทยอีกด้วย รวมทั้งทำให้คนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ทางสำนักงานประมงจังหวัดยะลาขยายพื้นที่ส่งเสริมการเลี้ยงปลานิลสายน้ำไหลให้เกษตรกรในพื้นที่ อ.ธารโต อ.บันนังสตา ที่มีภูมิประเทศใกล้เคียงกับ อ.เบตงต่อไป.
.เจษฎา สิริโยทัย จ.ยะลา
Discussion about this post