เมื่อเวลา 08.00 วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ร.ต.อ. หญิง รัชนิชา ชูช่วย รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่ามีพบศพลอยอยู่กลางหนองนาหล่ำ หลังวัดบ้านหนองบุ ม.14 ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี ห่างจากฝั่งประมาณ 30-40 เมตร คาดว่าเป็นศพนายพิทักษ์ พรหมบุตร อายุ 62 ปี อดีตครูเกษียณ อยู่บ้านเลขที่ 515 ม.14 บ.หนองบุ ต.สามพร้าว ซึ่งบ้านอยู่ริมหนองนาหล่ำ ที่หายออกจากบ้าน 5 วัน หลังญาติพี่น้องออกตามหา จึงพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน พร้อมกับประสานแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี รุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านมุงดูจำนวนมาก อาสากู้ภัยได้นำเรือท้องแบนลงไปนำศพขึ้นมาตรวจสอบบนฝั่ง พบเป็นศพเพศชายจมน้ำเสียชีวิตมาประ มาณ 4 วัน สภาพศพนอนคว่ำหน้า มีสายบัวพันตามร่างกาย และมีหนอนไต่ สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้น และกางเกงขาสั้น สีครีม ไม่สวมรองเท้า ที่นิ้วนางด้านซ้ายศพสวมแหวนทองคำหนัก 50 สตางค์ 1 วง ต่อมาได้มีนางหมวย (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี ข้าราชการครูแห่งหนึ่งใน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้เข้ามาดูศพและเมื่อเห็นตำหนิรูปพรรณศพ ถึงกับร้องไห้โฮแทบเป็นลมล้มพับและยืนยันว่าเป็นศพของนายพิทักษ์ สามีของตน ที่หายออกจากบ้านไปหลายวัน และทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ตาย เช่นโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าเงิน ยังอยู่ครบวางอยู่ในบ้าน
จากนั้นแพทย์ได้ทำการตรวจสอบพลิกศพพบว่า ที่หน้าผากผู้ตายมีลักษณะยุบ ซึ่งแพทย์เวรยังไม่ระบุว่าถูกทำร้าย แต่อาจจะเกิดจากร่องรอยของสัตว์น้ำกัด เช่น หอย ปู ปลา เนื่องจากสภาพศพขึ้นอืดจากการจมน้ำหลายวัน จึงมองคล้ายกับถูกทำร้าย อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ จะให้อาสากู้ภัยฯจะได้นำศพไปผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่นิติเวช รพ.ศูนย์อุดรธานี
น.ส.นา (นามสมมุติ) อายุ 52 ปี น้องสะใภ้ผู้ตาย กล่าวว่า ผู้ตายมีลูก 2 คน คนโตเป็นผู้หญิงทำ งานเป็นพยาบาลอยู่พื้นที่ จ.หนองคาย ส่วนภรรยารับราชการครูที่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคายเช่นกัน ช่วงวันหยุดหรือ 1 สัปดาห์จะกลับมาบ้าน หลังผู้ตายเกษียณก็มาอยู่ที่บ้านกับลูกชายคนเล็ก ผู้ตายเป็นคนชอบดื่มเหล้าขาวอยู่ที่บ้านตามลำพัง และในทุกเช้าจะวิ่งออกกำลังกายรอบหนองน้ำ และไม่ชอบสุงสิงกับใคร พอภรรยาและลูกสาวผู้ตายกลับมาถึงบ้านช่วงค่ำวานนี้ ได้ให้ลูกชายไปแจ้งความคนหาย ที่ สภ.เมืองอุดรธานี กระทั่งมาพบศพลอยอืดในช่วงเช้าวันนี้ หลังออกตามหากันมาหลายวัน
“ที่ญาติพี่น้องและภรรยาผู้ตายสงสัยหรือติดใจในสาเหตุการตาย เพราะผู้ตายว่ายน้ำเป็น และไม่สวมรองเท้าบูท หากผู้ตายลงหนองน้ำหรือออกจากบ้านก็ต้องสวมรองเท้า แต่รองเท้าทุกคู่ของผู้ตายยังอยู่ที่บ้านครบทุกคู่ จึงให้แพทย์เวรนำศพไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง”
ส่วนนายธรณินทร์ หรือคิม อายุ 22 ปี ลูกชายคนเล็กผู้ตาย กล่าวว่า พ่อเคยรับราชการครูในตำแหน่ง รอง ผอ.โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี และเป็นคนชอบดื่มเหล้าขาว มีโรคประจำตัวหลายโรค เช่น ความดัน เบาหวาน และมีอาการหลงลืม และชอบดื่มเหล้าอยู่ที่บ้านคนเดียว นานๆจะมีเพื่อนพ่อมาดื่มด้วยที่บ้าน ครั้งล่าสุดตนเห็นพ่อนั่งเล่นกีตาร์อยู่ที่บ้านช่วงคืนวันอาทิตย์ และเช้าวันจันทร์ก็ยังเห็นอยู่บ้าน ก่อนที่ตนจะออกไปฝึกงานทนายความ และกลับมาบ้านดึกทุกวัน ไม่ค่อยมีโอกาสได้พูดคุยกับพ่อ และไม่ได้สังเกตว่าพ่อหายไปไหน เพราะพ่อไม่เคยบอกตนเวลาออกไปไหนมาไหนเลย จึงคิดว่าพ่อออกไปเที่ยวหาเพื่อนนอกบ้าน
นายธรณินทร์ กล่าวต่อไปว่า จนกระทั่งวันพฤหัส บดีที่ผ่านมาตนลาหยุดงาน พ่อก็ยังไม่กลับมาบ้าน ได้ออกตามหากับญาติพี่น้องแต่ก็ไม่พบ จึงโทรไปบอกให้แม่ทราบ และมีเหตุการณ์ที่ชวนขนหัวลุก ขณะที่ตนอยู่ในห้องนอนช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี มีคนมาเคาะประตูห้องนอนตน ทีแรกคิดว่าพ่อคงกลับมาบ้านแล้ว พอเปิดประตูออกไปดู แต่ก็ไม่พบใคร ตนเชื่อว่าคงเป็นวิญญาณของพ่อพยายามมาสื่อสารบอกตนให้รู้
“อุปนิสัยพ่อเป็นคนขี้น้อยใจ และชอบระแวงแม่ปันใจให้ชายอื่น และทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยครั้ง แต่แท้ที่จริงแล้วแม่ไม่ได้เป็นคนอย่างนั้น และไม่เคยนอกใจพ่อ แต่พ่อชอบคิดไปเอง อาจจะเป็นเพราะอยู่ห่างกัน หนึ่งสัปดาห์จะกลับมาบ้าน ยิ่งเวลาเมาเหล้ายิ่งพูดเรื่องนี้ขึ้นมาบ่อย แต่เวลาไม่เมาจะเป็นคนไม่ค่อยพูด เป็นคนเงียบๆเก็บตัวอยู่คนเดียว และหลายครั้งเคยพูดขู่แม่ว่าจะกระโดดน้ำตายในหนองน้ำหน้าบ้าน และชวนแม่ไปหย่า ตนจึงคิดว่าพ่อคงมีภาวะซึมเศร้า หรือเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า กับการคิดมากในเรื่องนี้ แต่ไม่ออกอาการ จึงทำให้คิดสั้นมากกว่า เพราะพ่อไม่เคยมีศัตรู และไม่เคยพาพ่อไปพบหมอจิตเวชเลยสักครั้ง ก็มาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น”.
Discussion about this post