
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปรีชา ใคร่ ครวญ หรือครูปรีชา หอบหลักฐานเดินทางเข้าปรึกษา และขอความเป็นธรรม กับนายศรรัก มาลัยทอง หัวหน้าศูนย์ประ สานงานภาคประชาชนจังหวัดปทุมธานี กรณีเหตุหลักฐานสำคัญที่จะยืนยันได้ว่าครูปรีชา เป็นเจ้าของลอตเตอรี่ 2 ชิ้นได้หายไปจากพนักงานสอบสวนใขณะเนั้น อยากให้ช่วยติดตามกรณีดังกล่าว เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
ครูปรีชา เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนแพ้คดีหมวดจรูญ มาทั้ง 3 ศาล จึงได้มานั่งอ่านสำนวนอย่างละเอียด พบว่า มีหลักฐานสำคัญหายไป 2 ชิ้น คือ กล้องวงจรปิดในที่กิดเหตุ ซึ่งทางฝ่ายสืบสวนได้แจ้งว่าส่งมอบให้กับ พ.ต.ท.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล (พนักงานสอบ สวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ในขณะนั่น ยศ ร.ต.ท.) แต่ทาง พงส. แจ้งว่า ไม่ได้รับกล้องวงจรปิดมาจากฝ่ายสืบสวน และอีก 1 หลักฐานสำคัญที่หายไป คือ ซองพลาสติกที่ใส่ลอตเตอรี่ ซึ่งมีลายนิ้วมือติดอยู่ ทางพนักงานสอบ สวนแจ้งว่า ได้หายไปจากลิ้นชักโต๊ะทำงาน และทางพงส.ได้มีการแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว จนมองว่าเป็นเหตุหนึ่ง ที่หลักฐานสำคัญหายไปเมื่อขึ้นสู่ชั้นไต่สวน พิจาร ณาของศาล เพราะตนอ่านสำนวนไม่ละเอียดเอง จนกลับมาอ่านใหม่ทั้งหมด จึงรู้ว่าพลาดแล้ว และเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 66 ตนได้แจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.จิรยุทธ์ ชีชรินทร์กุล (พนักงานสอบสวนสภ.เมืองกาญจนบุรี ใยขณะนั้น) ในข้อกล่าวหามาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไว้ที่สภ.เมืองกาญจนบุรี
ครูปรีชา กล่าวอีกว่า ตรงนี้ไม่ใช่ตนไม่ใช่ไม่เคารพในการตัดสินของศาล ตนเคารพที่ศาลตัดสินให้ตนแพ้ ก็ถูกแล้ว เพราะไม่มีหลักฐานอะไรบ่งชี้ได้ว่า ตนเป็นเจ้าของหวยดังกล่าว แต่ตอนนี้ตนมาพบว่า หลักฐานสำคัญถึง2 ชิ้นที่อาจพลิกคดีได้ มันหายไปจากชั้นพนักงานสอบสวน วันนี้จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมกันต่อไป.
ด้านนายศรรัก มาลัยทอง หัวหน้าศูนย์ประ สานงานภาคประชาชนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่าจะดำเนินการติดตามกับเจ้าหน้าว่าสำนวนที่ครูปรีขาร้องมาว่าไม่ได้อยู่ในสำนวนที่หายไปเช่นกล่องวงจรปิด และ DNA ของกระบวนการยุติธรรมเพื่อหาความเป็นธรรมให้กับครูปรีชาที่ได้มาร้องกับเราว่าสำนวนต่างๆนั้นหายไปได้อย่างไรและทำไม่ถึงไม่หยิบยกขึ้นมาอยู่ในสำนวนเพราะสาเหตุอะไร
Discussion about this post