จากกรณีที่มีอดีตข้าราชการครูร้องสื่อฯขอความเป็นธรรมหลังจากมีคนแอบอ้างนำชื่อและเอกสารหลักฐานต่างๆของตนไปทำสัญญากู้เงินกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูยโสธรถึง 6 สัญญาในระยะเวลาเพียง 2 ปี จนทำให้ตนเองเป็นหนี้จำนวนกว่า 4 ล้าน 5 แสนบาท
ล่าสุดวันนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2567 ) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูยโสธร จำกัด เลขที่ 272 ถนนเลี่ยงเมือง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูยโสธร ได้เชิญสื่อมวลชนเพื่อรับฟังข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยนายวรศิลป์ โคตรมนตรี รองประธานกรรมการดำเนินการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูยโสธร จำกัด กล่าวว่า กรณี นางสาวตฤษนา อดีตข้าราชการครู ได้ร้องเรียนให้ตรวจสอบการทำสัญญากู้ยืมของตนเองที่มีกับสหกรณ์ฯ ซึ่งยืนยันว่าตนเองไม่ได้ทำสัญญากู้ตั้งแต่ปี 55 จนถึงปี 61 นั้น เรื่องดังกล่าวได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบข้อมูล คือ สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ฯและเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ฯ ได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการดำเนินการ แจ้งผลการตรวจสอบบัญชีเงินฝากของผู้ร้องจากธนาคารและรายละเอียดเกี่ยวกับเช็คที่สหกรณ์ฯ ได้อนุมัติวงเงินกู้ให้กับผู้ร้อง พบว่า การเบิกถอนเงินตาม statement ปรากฏเลขบัตรประชาชนของผู้ร้องนำเช็คไปขึ้นเงินด้วยตนเอง อีกทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ฯได้เชิญผู้ร้องมารับทราบข้อมูลที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับองค์กรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย สหกรณ์จังหวัด จึงอยู่ระหว่าง ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด
นายยุทธนา ประชุมชัย ผู้จัดการสหกรณ์ฯ กล่าวว่า ขั้นตอนการให้สมาชิกกู้ตามระเบียบฯสมาชิกต้องยื่นคำขอกู้พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องประกอบการกู้ยื่นต่อเจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯ หลังจากนั้นถ้าเข้าเงื่อนไขการอนุมัติเงินกู้ สหกรณ์ฯ จะโอนเข้าบัญชีของผู้กู้หรือออกเช็คสั่งจ่ายให้กับผู้กู้ และเมื่อสมาชิกชำระหนี้แล้ว สหกรณ์จะส่งใบเสร็จทุกเดือนให้สมาชิกตรวจสอบเงินต้น ดอกเบี้ยที่ชำระและยอดหนี้คงเหลือทุกเดือน
นายวรศิลป์ โคตรมนตรี รองประธานกรรมการดำเนินการ และนายยุทธนา ประชุมชัย ผู้จัดการสหกรณ์ฯ กล่าวว่า เพื่อปกป้ององค์กรจากข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อน อันจะส่งผลให้สหกรณ์ฯได้รับความเสียหาย จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเชิญนางสาวตฤษนา อดีตข้าราชการครู ผู้ร้องมาชี้แจงในฐานะสมาชิก ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า ผู้ร้องได้มีการเปลี่ยนชื่อหลายครั้งในช่วงปี 55 – ปี 61 และเหตุใดจึงได้ยื่นร้องเรียนเรื่องดังกล่าว ซึ่งเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปี ทั้งที่เมื่อ ปี 61 ตนเองได้ไปทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้และยินยอมให้สหกรณ์ฯ หักเงินชำระหนี้มาโดยตลอด ซึ่งไม่ได้โต้แย้งถึงเหตุดังกล่าวแต่อย่างใด
Discussion about this post