
จากกรณีตำรวจทางหลวง พบรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน 3424 ชุมพร ขับมาจอดซุกป่า ยางข้างศูนย์พัฒนาที่ดินจังหวัดนครพนม บริเวณบ้านดงโชค หมู่ 6 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นคร พนม หลังผู้ครอบครองรถ แจ้งความรถและสามีหายตัวไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ.67 และมีการพบรถจอดซุกบริเวณดังกล่าวเมื่อ วันที่ 4 ก.พ.67 เวลาประมาณ 17.30 น. ซึ่งก่อนหน้านั้น ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายต้องสงสัยรูปร่างท้วมใส่แว่นกำลังขับรถคันดังกล่าว ได้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ขณะกำลังขับรถมุ่งหน้าขึ้นเหนือ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นต่อมาก็ปรากฏภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่งที่อำเภอโพนสวรรค์ สามารถบันทึกภาพรถคันดังกล่าวได้อีก แต่คนขับมากลับเป็นหญิงสาวสองคนตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
วันที่ 9 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเบาะแส จากเจ้าของร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งในพื้นที่ บ้านดอนม่วง ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ว่ากล้องวงจร ปิดของร้าน สามารถบันทึกภาพหญิงสาวรูปร่างท้วมใส่เสื้อสีขาวกางเกงขายาวสีดำใส่แว่น ซึ่งเป็นคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน กท 3424 ชุมพร มา พร้อมกับมีหญิงสาวรูปร่างผอมใส่เสื้อสีดำกางเกงยีนส์ นั่งมาด้วยกันสองคน โดยทั้งคู่นัดกันมาทำผมที่ร้านเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. และเมื่อทำเสร็จก็ขึ้นรถขับออกจากร้านมุ่งหน้าไปทางอำเภอโพนสวรรค์ทันที ซึ่งทั้งคู่มีรูปร่างลักษณะเหมือนบุคคลตามที่ปรากฏในข่าว ซึ่งหลังผู้สื่อข่าวตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดก็พบว่ารถคันดังกล่าวที่ได้มาจอดที่ร้านเสริมสวย เมื่อวันที่ 4 ก.พ.67 นั้นเป็นรถของนายขนบ อายุ 56 ปี เสี่ยเจ้าของบ่อนไก่ชนสวี สเตเดี้ยม อ.สวี จ.ชุมพรจริง ซึ่งมีนางวันเพ็ญ หรือ เจ๊อ้วน อายุ 66 ปี ภรรยาเป็นผู้ครอบครองรถ แจ้งความรถและคนหายไว้ที่ สภ.นาสัก อ.สวี ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.67 เจ้าของร้านเสริมสวย กล่าวว่า หญิงสองคนนี้เป็นลูกค้าประจำ ของที่ร้าน และได้นัดคิวมาเสริมสวยล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.67 ว่าจะเข้ามาทำผมในวันที่ 4 ก.พ.เวลา 11.00 น. ซึ่งเมื่อมาถึงที่ร้านทั้งคู่ก็มีอาการปกติไม่ได้มีพิรุธอะไร และตนเองก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะมีลูกค้าทยอยมาต่อคิวทำผมอย่างต่อเนื่อง หลังทำผมเสร็จทั้งคู่ก็ขับรถคันนี้ออกไปในเวลา 14.00 น.
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านของหญิงสาวทั้งสองซึ่งทราบว่ามีพื้นเพอยู่ที่อำเภอโพนสวรรค์ จ.นครพนม โดยพบว่าบ้านของหญิงสาวที่นั่งข้างคนขับทราบชื่อคือ น.ส.นุ๊กเกอร์ เปิดเป็นร้านเสริมสวยทำเล็บ ซึ่งร้านตั้งอยู่ตรงข้ามกับบ้านของหญิงรูปร่างท้วมซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าวคือ น.ส.จุฑาภรณ์ หรือ ป๊อปปี้ กุลยะ อาชีพเป็น ครูอัตราจ้างที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นคร พนม โดยที่บ้านของน.ส.นุ๊กเกอร์ าไม่มีคนอยู่บ้าน ประตูบ้านถูกปิดล็อกไว้ ภายในบริเวณบ้านมีรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว สภาพเก่าจอดอยู่ ทราบต่อมาว่าสามี น.ส.นุ๊กเกอร์ มีอาชีพรับจำ นองจำนำรถยนต์ และ น.ส.นุ๊กเกอร์ มักจะขึ้นไปขับรถจากกรุงเทพฯลงมาในพื้นที่ จ.นครพนม อยู่บ่อยครั้ง
ขณะที่บ้านของ น.ส.จุฑาภรณ์ คนขับรถฟอร์จูนเนอร์ก็ไม่มีใครอยู่เช่นกัน ผู้สื่อข่าว จึงได้เดินทางมาสอบถามที่โรงเรียน ซึ่งเป็นที่ทำงานของนางสาวจุฑาภรณ์ แต่ก็ไม่พบตัว โดยผู้อำนวยการโรงเรียนให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า น.ส.จุฑาภรณ์ เป็นครูอัตราจ้าง สอนอยู่ชั้นอนุบาล 1 โดยเมื่อวันที่ 4 ก.พ.67 ที่ผ่านมาได้ยื่นใบลากิจ มีกำหนด 3 วัน ซึ่งปกติก็ครบกำหนดวันลาแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็น น.ส.จุฑาภรณ์ มาทำงานแต่อย่างใด ซึ่ง ปกติตามระเบียบจะลากิจได้ปีละ 9 วัน นี่ก็หยุดไปแล้วถึง 6 วัน ก็ยังไม่เห็นครูป๊อปมาสอนหนัง สือนักเรียนแต่อย่างใด
ด้าน น.ส.จรินทร์พร อายุ 35 ปี พี่สาว น.ส. จุฑาภรณ์ กล่าวว่า น้องสาวเป็นครูอัตราจ้างสอนที่โรงเรียน นานกว่า 2 ปีแล้ว โดย เป็นเพื่อนสนิทกับ น.ส.นุ๊กเกอร์ ซึ่งมีบ้านอยู่ตรงข้ามกัน ปกติน้องสาวหากไม่ได้ไปสอนหนังสือจะเลี้ยงลูกให้ตนเรื่องนี้ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทั้งคู่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร จนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัวน้องสาวมาหลายวันแล้ว ซึ่งตนเป็นห่วงมาก ยิ่งมีข่าวว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการโจรกรรมรถ เพื่อส่งไปขายให้ประเทศเพื่อนบ้านด้วยแล้วก็ยิ่งเป็นห่วงหนักขึ้นเกรงว่าน้องสาวจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากไปล่วงรู้ความลับของขบวน การนี้มากเกินไป จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวน้องสาว มาให้ปากคำกับเจ้าหน้า ที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่กันตัวไว้เป็นพยานก่อนที่จะถูกฆ่าตัดตอนไปเสียก่อน.
Discussion about this post