เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 20 พฤศจิกายน นางหม่อน กองทอง อายุ 73 ปี และนางสมยศ ขันดา อายุ 54 ปี 2 แม่ลูก ได้เข้าร้องเรียนกับนายภานุมาศ จิตรวศินกุล “เฮียเปี๊ยก จากเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” ว่านายปัญญา กองทอง อายุ 39 ปี ลูกชายนางหม่อน ถูกนายลำพอง (สงวนนาม สกุล) อายุ 54 ปี ลูกเขยนางหม่อน ใช้มีดฟันศีรษะและแขน เนื่องจากทะเลาะกัน พอนางหม่อนเข้าไปช่วยนายปัญญา ก็โดนลูกเขยฟันได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยา บาล เมื่อออกมาแจ้งความดำเนินคดี ต่อ ร.ต.อ. สุขอินทร์ ราจันทร์แก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ. นาข่า อ.เมืองอุดรธานี แต่คดีไม่คืบ เกรงว่าจะเกิดอันตรายขึ้นอีก จึงได้เข้ามาร้องเรียนเพื่อติดตามคดี จากตำรวจที่รับผิดชอบคดี เหตุเกิดที่บ้านดัก อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 1 พ.ย.66 ที่ผ่านมา
นางสมยศฯ ลูกสาวคนโตของนางหม่อน เปิดเผยว่า ที่ตนมาร้องขอความเป็นธรรมจากเรื่องที่นายลำพองน้องเขย ใช้มีดพร้าฟันแม่และน้องชายได้รับบาดเจ็บ แต่คดีไม่คืบหน้า และคดีล่าช้าจึงอยากจะมาร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งเหตุการณ์เกิดจากนางหม่อน แม่ของตน ได้พานายปัญญาลูกชายไปทวงถามเอา รถจยย. จากนายเม่า อายุ 27 ปี หลานชาย ซึ่งเป็นลูกของนายลำพองกับน้องสาวตน เพราะนายเม่ายืมรถ จยย.ของแม่ไปใช้ นางหม่อนเกรงว่ารถจะพัง จึงให้นำมาคืน เพราะรถของนายเม่าก็มี

นางสมยศฯ กล่าวต่อไปว่า ขณะนางหม่อนกับนายปัญญามาทวงรถ จยย.จากนายเม่า อยู่นั้น เป็นจังหวะเดียวกันกับนายลำพอง พ่อนายเม่าและลูกเขยนางหม่อน ขี่รถกลับมาจากซื้อกาแฟ ได้จอดรถแล้วเดินเข้ามาต่อว่านายปัญญา พร้อมกับได้ใช้มีดพร้าฟันนายปัญญาที่ศีรษะและแขน จนเลือดอาบ นางหม่อนเห็นก็เลยรีบเข้าไปช่วยนายปัญญา และก็ถูกนายลำพองลูกเขยใช้มีด พร้าฟันที่แขนซ้ายได้รับบาดเจ็บ ช่วงเกิดเหตุมีคนข้างบ้านเห็น แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปช่วยเหลือ ตนเห็นแม่และน้องชายโดนนายลำพองน้องเขยทำ ร้าย จึงรีบวิ่งเข้าไปช่วย เพร้อมกับด่าน้องสาวที่ไม่เข้าไปห้ามผัว จากนั้นตนก็รีบเอาแม่ขึ้นรถพามาโรงพยาบาล
นางสมยศ กล่าวต่อไปอีกว่า ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรกัน แต่ก็มีปากเสียงนิดหน่อย ไม่เคยที่จะมาทำอะไรรุนแรงขนาดนี้ โดยรถ จยย.ที่นางหม่อนไปทวงจากหลานชาย เป็นรถของพ่อซึ่งซื้อให้นายปัญญาเมื่อ 3 ปีก่อนพ่อจะเสียชีวิต ซึ่งพวกตนพี่น้องทั้งหมด 8 คน เสียชีวิตไป 1 คน เหลือ 7 คนเป็น ผู้หญิง 5 คน ผู้ชาย 2 คน โดยทุกคนก็อยู่ด้วยกันเป็นครอบ ครัว ตนรู้สึกเสียใจที่น้องสาวปล่อยให้สามีมาทำร้ายแม่และไม่ห้าม แถมหลังเกิดเหตุน้องสาวก็ไม่ได้มาเยี่ยมและสอบถามอาการแม่เลย
ส่วนนางหม่อนฯ กล่าวว่า ตนได้แบ่งที่ดิน 70 ตารางวา ให้ลูกสาวและนายลำพองลูกเขยไปสร้างบ้าน แต่ลูกเขยยังกล้ามาทำร้ายตน ทำ ให้รู้สึกเจ็บใจโกรธทั้งลูกสาวและลูกเขย เพราะเนรคุณแม่ ซึ่งตนยังมีที่ดิน 35 ไร่ ยังไม่ได้แบ่งให้ลูก มาเกิดเรื่องแบบนี้ ตนจะตัดลูก สาว เมียนายลำพองออกจากกองมรดก และก็อาจจะฟ้องเอาที่ดินที่ยกให้ 70 ตารางวาคืน เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องลูกสาวไม่มาเยี่ยม ไม่เคยมาถามไถ่อาการ และลูกสาวยังเคยพูดว่าถ้าแม่ตายก็จะไม่มาดูหน้า หากตนฟ้องเอาที่ดินคืน ลูกเขยจะมาทำร้ายตนก็ไม่กลัว ตนจะเอาเรื่องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จากนั้นได้นำทั้งสองเข้าปรึกษากับ ผกก.สภ. เมืองอุดรธานี
หลังจากนั้นนางสมยศก็ได้กล่าวในตอนท้ายว่า หลังจากที่เข้าไปพบผู้กำกับและรองผกก. แล้ว ก็ได้รับความเป็นธรรม โดยบอกตนว่า ต้องรอผลจากหมอก่อน เพื่อจะได้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุได้ ว่าผู้บาดเจ็บ อาการสาหัสขนาดไหน ตนก็รู้สึกสบายใจขึ้นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ตนก็ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
พ.ต.ท.นิวัตร กุลศรี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ. เมืองอุดรธานี หลังจากสอบถามข้อมูลพร้อมประสานไปยังร้อยเวรที่รับคดี ทราบว่าเรื่องดังกล่าวได้อยู่ในขั้นตอนของการ รอเอกสารจากทางโรงพยาบาล วินิจฉัยอาการบาดเจ็บของนางหม่อน เนื่องจากทางโรงพยาบาลยังมีการนัดนางหม่อนไปตรวจดูบาดแผล ซึ่งยังไม่เสร็จขั้นตอนการรักษา ส่วนนายปัญญา ผลทางการแพทย์ออกมาแล้ว ก็จะได้รวบรวม เข้าสำนวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ในส่วนที่กลัวว่าผู้ก่อเหตุจะมาทำร้าย ถ้าหากมีการข่มขู่หรือจะมีสัญญาณไม่ดีกับทางครอบครัวให้รีบโทรแจ้งตำรวจในพื้นที่เพื่อจะได้เข้าไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
Discussion about this post