วันนี้ (9ก.ย.66) เวลา 09.30 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานเปิดการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” และงานหัตถกรรม ตามโครงการยกระดับการพัฒนาผลิต ภัณฑ์ภูมิปัญญาผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชน จุดดำเนินการที่ 4 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ ประธานชมรมแม่บ้านกรมการพัฒนาชุมชน นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นางนงรัตน์ คงเกษม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดอุดรธานี นายกัณฑ์พงศ์ สุระวรรณวิจิตร รองประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี นายธีรวัฒน์ คุณะปุระ อดีตประธาน YEC หอการค้าจังหวัดอุดรธานี นายกฤตธัช จารุไชยกุล เลขานุการโครงการอุดรธานีไกด์ หอการค้าจังหวัดอุดรธานี คณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน คณะผู้บริหารจังหวัดอุดรธานี คณะกรรมการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” และงานหัตถกรรม ระดับภาค และช่างทอผ้า ผู้ประกอบการ ผู้สมัครเข้าประกวด ร่วมในพิธี ณ ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติ มลฑาทิพย์ ฮอลล์ จังหวัดอุดรธานี

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายดอกรักราชกัญญา” เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 เนื่องในโอกาสทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฎรจังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นลายผ้าที่พระองค์ทรงศึกษาค้นคว้าลวด ลายพื้นถิ่นภาคใต้ แล้วนำมาออกแบบผสมผสานกับ “ลายดอก รัก” ที่สื่อถึงความรักและกำลังใจที่พระองค์ทรงสร้างสรรค์ขึ้น เพื่อเป็นของขวัญแก่ช่างทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค เยาวชนคนรุ่นใหม่ และประชาชนคนไทยทุกคน ทรงคิดค้นออกแบบผ้าลายพระราช ทาน “ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี” พระราชทานให้กับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้นำไปขับเคลื่อนต่อยอดภูมิปัญญาไทย อีกทั้งยังให้แนวคิดกับผู้ประกอบการผ้าไทยในการนำลายผ้าไปประยุกต์ จนเกิดเป็นจุดเริ่มต้นของความรุ่งโรจน์ของผ้าไทย ที่กระตุ้นให้เกิดการสวมใส่ผ้าไทยตลอดระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการมีลวดลายเพียงอย่างเดียวนั้นไม่พอ ยังเน้นย้ำไปถึงเรื่องการใช้สีที่มีความเหมาะสมกับแฟชั่นและฤดูกาล เพื่อเพิ่มความหลากหลาย เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีความทันสมัย เป็นที่มาของหนัง สือเทรนด์ผ้าไทย Thai Textiles Trend Book อีกทั้งการประยุกต์ใช้สี Pantone หรือ Earthtone ที่เป็นองค์ความรู้ในด้านเฉดสีต่าง ๆ ทั้งโทนเดียวกันหรือตัดกัน เพื่อสร้างความโดดเด่นและเอก ลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าไทยมากยิ่งขึ้น ตัดเย็บผ้าให้มีรูปทรงที่เป็นความต้องการของตลาด เหมาะสมกับการสวมใส่ในทุกโอกาส และทุกเพศ ทุกวัย จึงเป็นที่มาของโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก”.
Discussion about this post