

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดพังงาหลังเก่า อ.เมืองพังงา นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานเปิดโครงการ“พาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ ทั่วไทย LOT 21 จังหวัดพังงา” โดยมี นาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพังงา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น ภาคเอกชน เข้าร่วม และได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนเดินทางมารับคิวเข้าแถวเพื่อซื้อสินค้าของกินในครัวเรือนในราคาพิเศษเป็นจำนวนมาก โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้ร่วมเดินชมบูธจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัดที่มาร่วมโครงการจำนวน 100 บูธ และได้ร่วมมอบสินค้าราคาพิเศษให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมกับเดินจับจ่ายซื้อสินค้าอุดหนุนพ่อค้าแม่ค้าที่มาร่วมโครงการ
นางสาวจุฬารัตน์ นุ่มนิ่ม พาณิชย์จังหวัดพังงา กล่าวว่า โครงการ “พาณิชย์…ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย Lot 21” เป็นโครงการที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. 2566 ให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศดำเนินการ ซึ่งรวมถึงสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพังงาด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันที่ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ให้ประชาชนได้มีช่องทางการเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันในราคาประหยัดได้มากขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพของประชาชน รวมถึงเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการได้อีกช่องทางหนึ่ง
การดำเนินโครงการ “พาณิชย์…ลดราคา! ออนทัวร์ ทั่วไทย Lot 21” จังหวัดพังงา จัดจำนวน 3 ครั้งๆละ 3 วัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. โดยครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 15 – 17 พฤษภาคม 2566 ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดพังงา (หลังเก่า) อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 20 – 22 พฤษภาคม 2566 ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา และครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 26 – 28 พฤษภาคม 2566 ที่บริเวณชายทะเลท้ายเหมือง ตำบลท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ซึ่งการจัดงานในแต่ละครั้งมีผู้ประกอบการเข้าร่วมงานจากจังหวัดพังงาและต่างจังหวัด รวมทั้งสิ้น 100 บูธ สินค้าแบ่งออกเป็น 10 หมวด ได้แก่ 1) อาหารสดและอาหารแปรรูป 2) เครื่องดื่ม 3) เครื่องใช้ไฟฟ้า 4) เครื่องครัว5) ของใช้ประจำวัน 6) เครื่องแต่งกาย 7) เครื่องนอน 8) สินค้าชำระร่างกาย 9) ยารักษาโรค และ 10) อุปกรณ์การเกษตร โดยลดราคาสูงสุด 40% นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพนำมาจำหน่ายในราคาประหยัด ถูกกว่าท้องตลาด อาทิ หมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 140 บาท น่องไก่ติดสะโพก กิโลกรัมละ 60 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 แผงละ 85 บาท น้ำตาลทราย กิโลกรัมละ 18 บาท น้ำมันพืชปาล์ม ขนาด 1 ลิตร ขวดละ 35 บาท ข้าวหอมมะลิ 5 กิโลกรัม ถุงละ 110 บาท และข้าวขาว 5 กิโลกรัม ถุงละ 70 บาทเท่านั้น
Discussion about this post