ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุงรายงานข่าว จากกรณีที่บริษัทสยามเนสท์ 2022 จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลในการสัมปทานรังนกอีแอ่นในพื้นที่ ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง เป็นเงิน จำนวน 400 ล้านบาท หลังจากที่มีการประมูลกันถึง 9 ครั้ง และในช่วงว่างเว้นจากการสัมปทานรังนกนั้นได้มีกลุ่มคนร้ายเข้าไปขโมยรังนก ทำลายทรัพยากรรังนก จนได้รับคสามเสียหายเป็นจำนวนมาก ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 ตัวแทนบริษัทสยามเนสท์ฯที่ชนะการประมูล คณะกรรมการรังนกฯ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และกลุ่มสื่อ มวลชน ได้ลงพื้นที่เกาะรังนกเพื่อรับมอบเกาะจากทางคณะกรรม การรังนกฯ ปรากฏว่าในถ้ำรังนกขนาดใหญ่ จำนวน 7 ถ้ำรังนกได้ถูกขโมยจนเกลี้ยงถ้ำ ส่วนการเก็บรังนกของบริษัทฯนั้นได้มีปริมาณลดน้อยลงมาก จนทางบริษัทสยามเนสท์ฯได้ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากคณะกรรมการรังนกจังหวัดพัทลุง เป็นเงิน 500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่11เมษายน 2566 ที่ห้องประชุมสภา อบจ.พัทลุง นางนิศากร วิศิษฐ์สรอรรถ ผวจ. พัทลุง ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง ได้เป็นประธานในการประชุมร่วมกันระหว่างตัวแทนของบริษัทสยามเนสท์ฯ กับคณะกรรมการรังนกฯ และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อเท็จจริงในเรื่องความเสียหายของรังนก โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าถ่ายภาพในการประชุมแต่อย่างใด และมีการห้ามมิให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ารับฟังการประชุมโดยเด็ดขาดเพราะถือเป็นความลับของทางราชการ แต่การพูดคุยกันในครั้งนี้ก็ไม่สามารถยุติเรื่องการฟ้องร้องได้ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ทางด้าน ผวจ. พัทลุงได้ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดกับกลุ่มสื่อมวลชน
ทางด้านนายพิพัฒน์ ทนายความของบริษัทสยามเนสท์ฯ กล่าวว่า การเรียกเงินค่าเสียหายจากคณะกรรมการรังนกฯ จำนวน 500 ล้านบาทนั้น ทางคณะกรรมการรังนกฯก็จะมีปัญหาในการจ่ายค่าเสียหายให้กับทางบริษัทฯอย่างแน่นอน เนื่องจากในขณะนี้เงินอากรรังนกก็ได้จัดสรรไปให้ท้องถิ่นแล้ว ทางบริษัทฯจึงได้ยื่นขอเสนอให้มีการขยายระยะเวลาการสัมปทานจาก 5 ปี ไปเป็น 15 ปี โดยจะเพิ่มค่าอากรเพิ่มให้เป็น จำนวน 500 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 900 ล้านบาท อันจะส่งผลให้จังหวัดพัทลุงจะได้รับเงินอากรรังนกงวดละ 60 ล้านบาท ในส่วนของบริษัทฯก็จะได้มีการเพิ่มจำนวนพันธ์นกอีแอ่นและอนุรักษ์นกอีแอ่นให้มากเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันจะก่อให้เกิดผลดีกันทั้ง 2 ฝ่าย และเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดอีกด้วย ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าจำนวนรังนกที่เก็บได้ในการสัมป ทานรังนกฯของบริษัทนั้นปริมาณรังนกได้หายไปมากกว่า 300 เปอร์เซ็น ซึ่งเป็นประจักษ์ด้วยพยานหลักฐานอยู่แล้วเพราะการเก็บรังนกในแต่ละครั้งมีฝ่ายเกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบด้วย ซึ่งกว่าจะให้สถานการณ์รังนกเข้าสู่สภาพปกติจะต้องใช้เวลานานไม่ต่ำกว่า 5 ปี.
Discussion about this post