![คนร้ายบุกเดี่ยวชิงสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ร้านทองห่างโรงพัก200เมตร หนีข้ามฝั่งเมียนมา 2 S 18096146 2022 11 26 19 00 10](https://i0.wp.com/www.talknewsonline.com/wp-content/uploads/2022/11/S__18096146_2022-11-26_19_00_10-640x360.jpg?resize=640%2C360)
![คนร้ายบุกเดี่ยวชิงสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ร้านทองห่างโรงพัก200เมตร หนีข้ามฝั่งเมียนมา 3 3 3](https://i0.wp.com/www.talknewsonline.com/wp-content/uploads/2022/11/3-3.jpg?resize=640%2C360&ssl=1)
เวลา16.00น. วันที่ 26 พ.ย. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.พิพัฒน์ นาระเดช ผกก.สภ.แม่สาย ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ที่ห้างทองเสรีภัณฑ์ ตั้งอยู่ริมริมถนนพหลโยธินขาออกจากแม่สาย ห่างจากโรงพักเพียงแค่ประมาณ 200 เมตร หลังจากที่ ร้อยตำรวจเอก สมเกียรติ ชัยตาล พนักงานสอบสวนเวร สภ.แม่สาย จ.เชียงราย รับแจ้งเหตุ ได้ประสานงานกับ พ.ต.ท.รัชพล สะสม สว.สส.สภ.แม่สาย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบนางโชสิตา ผู้จัดการห้างทองฯ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. มีลูกค้าเป็นชาย ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ และสวมแมส มาที่ร้านแล้วบอกว่าอยากดูสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พอบอกราคาไปลูกค้าบอกว่าแพง ขอไปถามเมียก่อน เมื่อกลับมาอีกครั้งกลับมาบอกว่าเมียอยากได้ขนาดน้ำหนัก 5 บาท เมื่อตกลงซื้อขายแล้วคนร้านได้หยิบทองแล้ววิ่งออกจากร้านขึ้นรถรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว “ปกติผู้ค้าทองมีความระมัดระวังกันอยู่แล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงของการแข่งขันฟุตบอลโลก ซึ่งเมืองไทยมีข่าวคนติดหนี้พนันบอลกันเยอะ โดยลูกค้ารายนี้จริงๆก็ไม่ค่อยไว้วางใจ จึงพยายามไม่ให้ลูกค้าได้จับทองทั้งเส้นโดยตรง แต่ที่ยังพลาดจนถูกคนร้ายชิงสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาทไปได้ 1 เส้นเป็นเพราะได้มีการเจรจาตกลงซื้อกันเรียบร้อยแล้ว จึงเผลอวางและคนร้ายก็หยิบทองวิ่งออกไปทันที” ผู้จัดการร้านทองกล่าว
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของห้างทองฯ พบคนร้ายเป็นชายผมเกรียน อายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อยืดสีดำ สวมกางเกงยีนส์ ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสีแดงเป็นพาหนะ จึงได้เก็บรอยนิ้วมือแฝงภายในร้านที่คาดว่าจะเป็นของคนร้าย ซึ่งเจ้าหน้าที่พบว่าคนร้ายได้เข้าออกห้างทอง 2 รอบ รอบแรกไม่สวมหมวก รอบที่ 2 สวมหมวก คาดว่าเป็นการดูลาดเลาและอำพรางตัว
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้กระจายกำลังกันออกไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากห้างร้านที่อยู่ข้างเคียง และกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ เพื่อตรวจสอบเส้นทางหลบหนี เจ้าหน้าที่ทหารได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทหารแล้วพบว่า หลังจากลงมือก่อเหตุคนร้ายรายนี้ได้หนีข้ามน้ำสายเข้าไปที่ฝั่งจังหวัดท่าขีเหล็ก ประเทศเมียนมาโดยทิ้งรถคันที่ใช้ก่อเหตุไว้ริมฝั่งแม่น้ำสายบริเวณใกล้กับโครงการชลประทานแม่สาย แต่อย่างไรก็ตามตำรวจชุดสืบสวนทราบแล้วว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร โดยจะได้ประสานกับชุดประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา เพื่อขอความร่วมมือตำรวจเมียนมาให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินดคีต่อไป
Discussion about this post