สมพงษ์ ปานรุ่ง ข่าว สระบุรี
วันที่ 13 มี.ค.65 ที่สาธารณสุขจังหวัดสระบุรี พญ.ศิริรัตน์ สุวรรณฤทธิ์ ผู้อำนวยการป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรคกรทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน สนง.ป้องกันโรคควบคุมที่ 4 จ.สระบุรี ศูนย์ถนนจังหวัด ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ ปภ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ แขวงการทางหลวงสระบุรี และเจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดสระบุรี ร่วมประชุม หาสาเหตุของการเกิดอุบติเหตุ รถทัวร์โดยสารสาย กรุงเทพฯ-สุวรรณภูมิ พุ่งชนตอหม้อสะพานต่างระดับตลิ่งชัน บนถนนมิตรภาพ(ขาเข้ากรุงเทพฯ) หน้าห้างโรบินสันสระบุรี ส่งผลให้ผู้โดยสารกระเด็นออกนอกตัวรถได้รับบาดเจ็บหลายราย และมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 5 ราย ต่อมาผู้ได้รับบาดเจ็บทนผิดบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตเพิ่มอีก จำนวน 3 ราย รวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 8 ราย แต่เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารเท่าที่ทางเจ้าหน้าที่เช็คจากทางขนส่งนครราชสีมา มีผู้โดยสารจำนวน 32 ราย แต่จากการตรวจเช็คของสาธารณสุข ที่ได้รวบรวมไว้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตรวม 30 รายเท่านั้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบรถทัวร์คันดังกล่าว ซึ่งนำมาจอดไว้ที่ บริเวณ อู่โก้ ใต้สะพานต่างระดับแก่งขนุน ต.แก่งขนุน อ.เมือง จ.สระบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสภาพยางรถ ว่ามีสภาพพร้อมหรือไม่ ดอกยางมีสภาพที่สมบูรณ์หรือไม่ และตรวจสอบองค์ประกอบต่างๆของตัวรถ แต่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลที่แน่ชัดได้ซึ่งต้องรอผลที่แน่นอนจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง
ด้าน นางสมพร สิทธิการะนา นักวิชาการขนส่งชำนาญการพิเศษ เผยว่า จากข้อมูลรถคันดังกล่าว มีการตรวจสภาพรถ ก่อนต่อภาษีเมื่อวันที่ 29 มี.ค.64 เพื่อที่จะต่อภาษี ซึ่งภาษีรถคันนี้จะสิ้นสุด 31 มี.ค.65 ซึ่งในวันเกิดเหตุ รถได้วิ่งออกมาจากต้นทาง สุวรรณภูมิ จากนั้นได้ขับผ่านมาเรื่องๆ ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุได้แวะจุดเช็คพอย ที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.นครราชสีมา ก่อนที่จะมาเกิดอุบัติเหตุ ในด้านความเร็วจากการตรวจสอบดูจาก GPS จะพบว่ารถวิ่งมาประมาณ 80 กว่า กม/ชม. ซึ่งไม่เกิดกฎหมายที่กำหนด แต่ถ้าดูจาก กล้องของทางหลวงช่วง กม.ที่ 17 เป็นต้นมาซึ่งพบว่ารถทัวร์โดยสารจะวิ่งขวามาโดยตลอด จนมาประสบอุบัติเหตุ ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่ทราบถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากยังไม่ได้คุยกับคนขับรถ และยังไม่มั่นใจว่าใครเป็นคนขับรถที่แน่นอน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางขนส่งจังหวัดจะทำหนังสือเรียกผู้ประกอบการบริษัทขนส่ง และบริษัท สหพันธ์ร้อยเอ็ดทัวร์ ซึ่งเป็นผู้เข้าร่วมกับบริษัทขนส่ง เพื่อที่จะให้ผู้ประกอบการมาชี้แจงข้อเท็จจริง เนื่องจากว่าคนขับรถยังแอ็ดมิทอยู่
ส่วน ในด้านความผิด แล้วในเรื่องของความประมาทก็จะอยู่เฉพาะผู้ขับขี่ ซึ่งถ้าเข้าข่ายประมาทก็จะถูกปรับสูงสุด 5,000 บาท และถ้าขับรถเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตก็จะถูกพักใช้ใบอนุญาต ในเบื้องต้น 30-90 วัน แต่ถ้าตรวจสอบแล้วอุปกรณ์เกี่ยวกับส่วนควบตัวรถที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุก็จะมีความผิดประสูงสุด 50,000 บาท ซึ่งผู้ปรกอบการต้องรับผิดชอบ
ด้านการเยียวยาผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต ซึ่งทางรถมีประกันของ บ.อยุธยาแอนรีแอ้น ซึ่งมีประกันสำหรับผู้เสียชีวิตไว้ในเบื้องต้น 500,000 บาท มี PA อีก 100,000 บาท ซึ่งถ้าผลคดีออกมาว่าอุบัติเหตุเกิดจากรถที่ประมาท ประกันก็จะจ่ายอีก 500,000 บาท ซึ่งผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้โดยสารก็จะได้ 1,100,000 บาท
ส่วนทางด้านคดีนั้น ด้าน พ.ต.อ เชษฐชัย เศษฐศิริ ผกก.เมือง สระบุรี เผยว่า ทางด้านคดีนั้น ในเบื่องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวนได้ สอบปากคำพยานไปแล้ว ร่วม 15 ปาก ส่วนตัวคนขับนั้นตอนนี้ยังไม่ได้ทำการสอบสวนเพราะยังรักษาตัวอยุ่ที่โรงพยาบาลต้องรอให้อาการดีขึ้นก่อนทางเจ้าหน้าที่จำทำการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุการชนครั้งนี้ ส่วน ข้อหานั้นทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งไว้ 1 ข้อหา คือ ขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินราชการเสียหายและทำให้มีผุ้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนทางด้านเจ้าของบริษัทรถนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกมาสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป
Discussion about this post