
วันที่ 3 ก.พ.65 น.ส.คัทลียา ยุทธสุนทร อายุ 28 ปี ได้นำเอกสารเข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ว่าเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.64 เวลาประมาณ 21.00 น.นายแลบ แป้นประโคน (พ่อ) ได้ถูกรถจักรยานยนต์ชนจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุที่ริมถนนสาย 304 กบินทร์บุรี มุ่งหน้าศรีมหาโพธิ บริเวณทางออกหน้า รพ.กบินทร์บุรี ซึ่งผ่านมาแล้ว 2 เดือนกว่า แม้แต่ใบมรณะบัตรของพ่อก็ยังไม่ได้ไปแจ้ง และจะไปแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ให้แจ้งความออกให้แต่ใบบันทึกประจำวันให้อย่างเดียว และในใบบันทึกประจำวันก็ลงวันและ พ.ศ ที่เกิดเหตุผิด
ทางผู้สื่อข่าวได้ดินทางไปยังบ้านเลขที่ 192/122 ม.5 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่าบ้านหลังดังกล่าวตอนนี้ได้อาศัยอยู่กันแค่ 2 แม่ลูก โดยแม่จะเป็นผู้ป่วยทางด้านจิตรเวชและพิการร่างกายอ่อนแรงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยมี น.ส.คัทลียา คอยดูแลอยู่ซึ่ง น.ส.คัทลียา นั้นทำงานเป็นลูกจ้างทั่วไปของ บ.ในนิคมอุตสาหกรรม 304 โดยอาศัยช่วงพักกลางวันจะขับรถกลับมาเูแลป้อนข้าวแม่ที่บ้าน กลางคืนก็ต้องดูแลแม่บางทีได้นอนวันละ 1-2 ชั่วโมง/ วัน เพราะต้องคอยดูแลแม่ตลอด โชคดียังมีเพื่อนบ้านยังคอยหยิบยื่นความช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกิน และในเรื่องของการเดินเรื่องจะมี นางรัตติญา ศรีหนองโคตร (เพื่อนบ้าน) คอยพาไปเดินเรื่องเอกสารต่างๆให้ ซึ่งสภาพความเป็นอยู่ในตอนนี้ลำบากมากเพราะขาดเสาหลักไปไม่มีใครคอยดูแลแม่ และมีภาระในเรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพให้พ่อจะต้องไปกู้หนี้ยืมเขามา แม้ว่าทางผู้นำหมู่บ้านได้มีการเข้ามาช่วยเหลือด้วยก็ตามแต่มันก็ไม่เพียงพอสำหรับในการจัดงาน โดยไร้ความเหลียวแลจากคู่กรณีโดยวันที่เกิดเหตุนั้นทางคู่กรณีได้ให้เงินมาจำนวน 2,000 บาท และในวันที่จัดงานศพพ่อทางพี่สาวของคู่กรณีได้นำเงินมาให้ 15,000 บาท เท่านั้นและไม่เคยติดต่อมาถามไถ่อะไรเลย และในเรื่องของคดีความในตอนนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลยจนเวลาผ่านมา 2 เดือนแล้วใบแจ้งความก็ไม่ได้ได้แต่ใบลงบันทึกประจำวันที่วันและ พ.ศ. ที่เกิดเหตุก็ลงผิดเท่านั้นจึงทำให้ไปแจ้งทำใบมรณะไม่ได้ หรืออาจเป็นเพราะผู้เสียชีวิตไม่มีประประชาชนแต่ทาง นายสอย นกตลุง ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เป็นผู้ดำเนินเรื่องเอกสารเกี่ยวกับงานทะเบียนราษฎรให้ เพื่อมายืนยันว่าคนที่เสียชีวิตคือ นายแลบ จริง และทางนายแลบมีญาติพี่น้องอีก 2 คน ที่สามารถมารถมายืนยันได้ว่าคือ นายแลบ จริง

จากการสอบถาม น.สคัทลียา (ลูกสาวผู้เสียชีวิต) และนางรัตติญา (เพื่อนบ้าน) ตั้งแต่เสร็จจากงานศพพ่อตนได้เข้าไปที่ สภ. กบินทร์บุรี เพื่อจะขอแจ้งความเพื่อที่จะนำใบแจ้งความไปติดต่อขอทำใบมรณะให้กับพ่อแต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ให้แจ้งความจนมาเมื่อวันที่ตนได้ไปที่ สภ.กบินทร์บุรี อีกครั้งเพื่อจะไปถามถึงควาบคืบหน้าขอเรื่องคดีความ ในวันนั้นที่ 23 ม.ค.64 ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกเป็นใบบันทึกประจำวันให้โดยที่ระบุวันที่เกิดเหตุและ พ.ศ. ที่เกิดเหตุให้ผิด ส่วนในเรื่องของคดีในตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆเลยบอกแต่ให้รอจนผ่านมา 2 เดือนแล้ว ตอนแรกเขาได้ติดต่อมาทางเรายังไม่พร้อมในเรื่องของเอกสารจึงขอเลื่อนไป ส่วนทางคู่กรณีหลังจากที่ได้เผาศพพ่อไปแล้วนั้นก็ไม่ได้ติดต่อมาเลย โดยในวันที่เกิดเหตุทางคู่กรณีได้ให้เงินมา 2,000 บาท และได้ให้พี่สาวนำเงินมาให้ตอนงานศพอีก 15,000 บาท และหลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อมาเลย และทางคู่กรณีได้ติดต่อมาอีกครั้งว่าจะขอเครียให้จบที่ 65,000 บาท หรืออาจจะได้เยอะกว่านี้หน่อยนึงทางเราจึงบอกว่าเดี๋ยวเราขอไปทำเอกสารที่ จ. บุรีรัมย์ ก่อนเพราะคนตายไม่มีบัตรประชาชนทางผู้ใหญ่บ้านก็ได้มาเซ็นรับรองเอกสารให้เพื่อที่จะยืนยันตัวบุคคลว่าคนตายเป็น นายแลบ จริงให้กับทางเจ้าหน้าที่ ทางร้อยเวรบอกว่าอาทิตย์หน้าค่อยมาติดต่ออาทิตย์นี้ตนไม่ว่างเพราะจะต้องลงไป กทม. จนมาอาทิตย์หน้าก็เงียบมาอาทิตย์จ่อไปก็เลยติดต่อไปทางผู้สื่อข่าว ส่วนความคืบหน้าไม่มีนัดไปเรื่อยๆบอกจะนัดคู่กรณีมาคุยแต่ก็ไม่มีมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการเยียวยาก็เงียบยังไม่มีมา ตอนนี้ทางตนได้มีความเดือดร้อนในเรื่องของเงินที่ไปกู้เขามาจัดงานศพพ่อ ค่าบ้าน ค่ารถ เพราะตั้งแต่พ่อเสียตนต้องหยุดงานบ่อยเพื่อมาวิ่งเรื่องตามเรื่องในตรงนี้ ทำให้ตนเกือบจะต้องออกจากงาน ที่ผ่านมาทางกำนันและผู้นำหมู่บ้านก็ได้ลงมาช่วยในเรื่องของการนำศพออกจาก รพ. ช่วยจัดงาน ช่วยในเรื่องข้าวสารอาหารแห้งด้วย แต่ทั้งนี้ภาระอย่างอื่นที่ตนต้องจ่ายมันนอกเหนือจากตรงนั้น
ทั้งนี้ทั้งครอบครัวของผู้เสียชีวิตอยากจะขอร้องความเป็นธรรม กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่รับผิดชอบกับคดีความ และการเยียวยาช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยากให้ดูแลและรับผิดชอบกับครอบครัวผู้ที่สูญเสียเสาหลักของบ้าน เพราะตั้งแต่เกิดเหตุมาไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานใดๆเลย
Discussion about this post