คริสศาสนิกชนชาวท่าแร่ จังหวัดสกลนคร จัดพิธีแห่ดาวทางน้ำเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังก่อตั้งชุมชนคาทอลิคท่าแร่ มานานกว่า 137 ปี และมีการสืบทอดเทศกาลแห่ดาวคริสต์มาสมานาน กว่า 70 ปี นักท่องเที่ยวแห่ชมความอลังการ์ แสง สี เสียง
เวลา 20.00 น. วันที่ 22 ธันวาคม 2564 ที่ท่าน้ำริมหนองหาร สวนสาธารณท่าแร่ บ้านท่าแร่ ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร นายวิทูรย์ นวลนุกูล รอง ผวจ.สกลนคร ดร.ชูพงษ์ คำจวง นายก อบจ.สกลนคร พร้อมทีมผู้บริหาร และ ส.อบจ.ร่วมกับ ดร.พงษ์ศักดิ์ ศรีวรกุล นายกเทศบาลตำบลท่าแร่ ตลอดจนชาวคริสต์ในตำบลท่าแร่ และนักท่องเที่ยวหลายพันคน ร่วมกันประกอบพิธีเฉลิมฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้า ในเทศกาลคริสต์มาส โดยในทุกๆปีนับเป็นเวลากว่า 70 ปี มีการเทศกาลแห่ดาวขึ้น โดยดาวที่แห่เป็นดาวบนดินที่ประดับตกแต่งขึ้นอย่างวิจิตรตระการตา ท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับ ซึ่งเมื่อถึงเทศกาลเฉลิมฉลองคริสต์มาส ชาวคาทอลิกในตำบลท่าแร่จะประดับตกแต่งบ้านด้วยดวงดาว ทำให้ตำบลท่าแร่มีดาวบนดินนับล้านๆดวง สวยงามอย่างยิ่ง แต่ปีนี้จัดยิ่งใหญ่กว่าแต่ก่อนคือมีการแห่ดาวทางน้ำเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยปีต่อไปก็จะมีการแห่ดาวทางน้ำจนเป็นประเพณี ซึ่งการแห่ดาวทางน้ำ จะใช้ไม้ไผ่ทำเป็นรูปโบถส์คริสต์ทรงเรือ ที่ชาวคาทอลิกท่าแร่เคารพนับถือ ประดับประดาด้วยแสงไฟเป็นรูปร่าง โดยมีดาวบริวาร 5 ดวงแห่มาทางเรือเช่นกัน การแสดงของชาวเผ่าต่างๆ กว่า 300 ชีวิต
ท่าแร่ จึงเป็นถือเป็นดินแดนแห่งดวงดาวอันยิ่งใหญ่ เป็นหนึ่งเดียวของโลก และการแห่ดาวทางน้ำ นับเป็นสีสันแห่งทะเลสาบหนองหาร มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและคาทอลิกมาชมความงามกันหลายพันคน ส่วนในวันที่ 23 ธันวาคม เป็นการแห่ดาวใหญ่ที่ประดับตกแต่งบนรถยนต์ รวม 30 ขบวน จะแห่ไปตามถนนสายต่างๆ ก่อนที่จะมาจอดโชว์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมและถ่ายภาพ ณ อาสนวิหาร เทวดามีคาเอล ชุมชนบ้านท่าแร่ วันที่ 24 ธันวาคม เป็นการแห่ดาวมือถือไม่จำกัดรูปแบบไปตามถนนสายต่างๆ และเข้ามาประกอบพิธีทางศาสนา ที่อาสนวิหาร เทวดามีคาเอล ชุมชนบ้านท่าแร่ ในวันที่ 25 ธันวาคม ชมขบวนดาวจากชุมชนคาทอลิก 4 จังหวัด คือ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร และกาฬสินธุ์ กว่า 200 ขบวน จะมารวมตัวกันที่ศูนย์ราชการ เขตเทศบาลนครสกลนคร เพื่อแห่ไปลอกอุโมงค์ดาวที่ถนนสุขเกษม จากนั้นจะเคลื่อนขบวนไปตามถนนสกลนคร อุดรธานี และไปจอดตั้งโชว์ที่ โรงเรียนเซ็นต์ยอเซฟ หรืออัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง ในเขตเทศบาลนครสกลนคร เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาคริสต์ต่อไป
ท่าแร่ เป็นชุมชนคริสต์เก่าแก่มีอายุกว่า 137 ปี อยู่ห่างจากตัวเมืองสกลนคร ประมาณ 21 กม. ในอดีตประมาณปี พ.ศ.2427 ประชากรชาวท่าแร่เป็นชาวคริสต์ อพยพมาจากประเทศเวียดนามประมาณ 40 คน อาศัยอยู่ในตัวเมืองสกลนคร แต่เนื่องจากจำนวนประชากรเพิ่มขึ้น จึงได้ย้ายมาตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ บ้านท่าแร่ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ “โบสถ์อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล” ซึ่งเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่รูปทรงคล้ายเรือ เพื่อระลึกถึงการอพยพมาตั้งถิ่นฐานของคริสตชนในหมู่บ้านนี้ ท่าแร่ยังถือเป็นหมู่บ้านที่มีประชากร นับถือศาสนาคริสต์มากที่สุดในประเทศไทย ความโดดเด่นของหมู่บ้านท่าแร่ จะได้พบกับบรรยากาศเงียบสงบ และวิถีชุมชนขาวคาทอลิคที่เรียบง่ายแล้ว ยังได้ชมบ้านเรือนและตึกโบราณ สไตล์โคโรเนียลแบบฝรั่งเศสสวยงามแปลกตา เป็นอาคารทอดยาวที่เป็นเอกลัษณ์ ตามแบบฉบับของฝีมือช่างท้องถิ่นที่ไม่เหมือนที่ใด วิหารอัครเทวดามีคาแอล” ซึ่งเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่รูปทรงคล้ายเรือ เพื่อระลึกถึงการอพยพมาตั้งถิ่นฐานของคริสตชนในหมู่บ้านนี้อีกด้วย ขอเชิญนักท่องเที่ยวมาชมเทศกาลแห่ดาวที่ท่าแร่ เมืองแห่งศานา พลังศรัทธา แห่งพระเจ้า
Discussion about this post