เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ร.ต.อ.นพพร สุขกันต์ พงส.สภ.เชียงกลาง จ.น่าน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่านว่า มีสายตรวจจักรยานยนต์ สภ.เชียงกลาง และชาวบ้านบ้านส้อ ปิดล้อมจับกุมรถต้องสงสัยได้ 1 คนเสื้อสีเหลือง ขอให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงกลาง ช่วยตรวจสอบจึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.มนตรี ถาวรผกก.สภ.เชียงกลาง , พ.ต.ท.กิตติคุณ ขุนชุ่ม รอง ผกก.( สอบสวน ) ,พ.ต.ท.สุระพล เทพเสน รอง ผกก. สส.ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจำนวนหนึ่ง รุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุบริเวณถนนภายในหมู่บ้านส้อ หมู่ 9 ต.เปือ อ.เชียงกลาง จ.น่าน ได้นำตัวมาสอบถามแล้ว ชื่อนาย CAO CUONG NGUYEN เป็นเป็นคนสัญชาติเวียดนาม ได้เร่ขายผ้าใบในพื้นที่อำเภอเชียงกลาง จึงได้ประสานตรวจคนเข้ามืองจังหวัดน่าน โดยมี ร.ต.ต.ธนากร จีนขจร รอง สว.ตม.จ.น่าน ด.ต.ธนภัทร คำฟู และ ด.ต.ถนัดกิจ หทัยวิพุธพงศ์ ผบ.หมู่ ตม.จ.น่านได้นำตัวมาร่วมกันจับกุมนายเหวียน กาว เกือง (NGUYEN CAO CUONG ) อายุ 42 ปี สัญชาติเวียดนาม อยู่บ้านเลขที่ – หมู่ -เมืองฮาติ้ง (HA TINH) ประเทศเวียดนาม
พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ โตโยต้า โคโลล่า อัลตีส สีขาว ทะเบียน กต-907 แพร่ และผ้าใบกันสาด จำนวน 34 แผ่น จึงได้ร่วมกันตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
การสอบถามนายเหวียน กาว เกือง (NGUYEN CAO CUONG )ตนเองพวกจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันลงทุนซื้อผ้าใบมาจากกรุงเทพฯ แล้วนำมาเร่ขายในต่างจังหวัดและได้เร่ขายผ้าใบในพื้นที่อำเภอเชียงกลาง และอีกหลายพื้นที่ในจังหวัดน่าน จนกระทั่งถูก จนท.ตร.พื้นที่และชาวบ้านร่วมกันจับกุมนั้นตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการแก๊งลักเด็ก แต่อย่างไร ส่วนที่พูดคุยกับเด็กนั้น เพราะเห็นว่าเป็นเด็กน่ารัก จึงพูดคุยทักทายธรรมดาเท่านั้น ไม่มีเจตนาลักเด็กแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบหลักฐานพบว่า ใบอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรไทย (Passport) หมดอายุ จึงได้แจ้งให้ นายเหวียน กาว เกือง (NGUYEN CAO CUONG ) ผู้ถูกจับ ทราบว่า ต้องถูกจับโดยกล่าวหาว่า
1.เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
2.เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
3.เป็นบุคคลต่างต้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ผ่านช่องทางตรวจคนเข้าเมืองตามที่รัฐมนตรี
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
จึงได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
ส่วน พ.ต.อ.มนตรี ถาวร ผกก.สภ.เชียงกลาง แจ้งว่าสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 ต่อเนื่องวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ได้มีการเสนอข่าวสารทาง Social Media ว่ามีแก๊งลักเด็ก โดยใช้รถยนต์เก๋งสีขาวยี่ห้อ Toyota หมายเลขทะเบียน กต 907 แพร่ และในพื้นที่ อ.ภูเพียง จ.น่าน ที่มีการทักทายเด็ก น่าจะมีคนถ่ายภาพไปลงสื่อ จนกระจายข่าวว่าเป็นแก็งลักเด็ก ซึ่งตามข่าวสารก็แจ้งว่าเป็นแก็งลักเด็ก นั้น ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ชาวบ้านส้อ ม.9 ต.เปือ อ.เชียงกลาง จ.น่าน พบเห็นบุคคลและรถคันดังกล่าว ได้สอบถามแล้ว ชื่อนาย CAO CUONG NGUYEN เป็นเป็นคนสัญชาติเวียดนาม ได้เร่ขายผ้าใบในพื้นที่อำเภอเชียงกลาง และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ที่พูดคุยกับเด็กนั้น เพราะเห็นว่าเป็นเด็กน่ารัก จึงพูดคุยทักทายธรรมดาเท่านั้น ไม่มีเจตนาลักเด็กแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบหลักฐานพบว่า ใบอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรไทย (Passport) หมดอายุ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดน่าน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป (ผลการตรวจหาเชื้อโควิด จาก รพ.เชียงกลาง ไม่พบเชื้อแต่อย่างใด)
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น
Discussion about this post