อิทธิพล ของพายุฝน เตี้ยนหมู่ ส่งผลให้มีฝนตกในปริมาณมาก ในหลายพื้นที่ของจังหวัดลพบุรี โดยเฉพาะพื้นที่ตอนบนของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เต็มความจุของอ่าง แล้ว ล่าสุดกรมชลประทานจึงต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักฯ เพื่อความมันคงของตัวเขื่อน และรองรับมวลน้ำตอนบนที่ยังเดินทางมาไม่ถึงอีกในปริมาณมาก
ซึ่ง นายอภิรักษ์ ศรีกุลวงศ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ กล่าวว่า….สำหรับสถานการณ์น้ำที่เขื่อนชลสิทธิ์ ล่าสุดเช้าวันนี้ มีปริมาณน้ำในเขื่อนที่ 953 ล้านลูกบาศ์กเมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 99.27 ของความจุที่ 960 ล้านลูกบาศ์กเมตร โดยยังมวลน้ำเหนือ มีไหลลงเขื่อนอยู่ที่ 209 ล้านลูกบาศ์กเมตรต่อวัน ซึ่งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ต้องเปิดประตูระบายน้ำ 5 บาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำ ลงท้ายเขื่อน เฉลี่ย 50 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำเหนือไหลลงตัวเขื่อนในบริมาณมาก และยังคงต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ออกหนังสือ “ด่วนที่สุด” ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัด ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และ นนทบุรี ให้เฝ้าระวังสถานการณ์เตรียมรับผลกระทบจากการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เต็มความจุของอ่าง กรมชลประทาน จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำ ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำปาสัก ตั้งแต่ท้ายเขื่อนพระรามหกในชุมชมนอกคันกั้นน้ำบริเวณ วัดสะตือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 2-2.5 เมตร
Discussion about this post